กระดานสุขภาพ

รบกวนปรึกษาคุณหมอค่ะ
Omas*****a

21 สิงหาคม 2557 09:38:24 #1

เรียนสอบถามคุณหมอค่ะ

เป็นคนทานยาคุมกำหนดมาหลายปีค่ะ ล่าสุดประจำเดือนหมดไปเมื่อวันที่ 9/07 แล้วหยุดทานยาเนื่องจากจะต้องรักษาแผลที่ปากช่องคลอด คุณหมอให้หยุดมีเพศสัมพันธ์ 2 สัปดาห์ เลยไม่ได้ทานยาคุม หลังจากนั้นมีเพศสัมพันธ์กับแฟน 2 ครั้ง โดยสวมถุงยาง ซึ่งถ้าครบกำหนดประจำเดือนมาน่าจะช่วงประมาณ 7-12/08 แต่จนถึงวันนี้ 21/08 ประจำเดือนยังไม่มา และมีอาการปวดท้องน้อยมา 2 สัปดาห์และช่วงสัปดาห์นี้เริ่มเจ็บเต้านม ซื้อยาตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจหลายครั้งก็ไม่พบว่าตั้งครรภ์คะ ไม่ทราบว่าเป็นอาการของประจำเดือนใกล้มาหรือเปล่าค่ะ และมีโอกาศตั้งครรภ์หรือไม่ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

อายุ: 35 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 41 กก. ส่วนสูง: 153ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.51 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

23 สิงหาคม 2557 10:31:23 #2

หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ ยิ่งตรวจการตั้งครรภ์แล้วด้วย ส่วนสาเหตุที่ประจำเดือนขาดหายไปนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้ นอกเหนือจากการตั้งครรภ์ ก็มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องฮอร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ ซึ่งจากประวัติมีการทานยาคุมกำเนิดมานาน หลังจากหยุดยาไปแล้ว ผู้หญิงส่วนหนึ่งในเดือนแรกๆนั้นจะยังไม่มีการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนไม่มาในช่วงนี้ได้ครับ ดังนั้น หมอคิดว่า ไม่ตั้งครรภ์นะครับ และ หากประจำเดือนขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและพิจารณาให้ยาปรับรอบประจำเดือนครับ