กระดานสุขภาพ

กังวลใจมากครับ ถุงยางแตกครับคุณหมอ
Timm*****y

19 สิงหาคม 2557 09:53:46 #1

คือเรื่องมีอยู่ว่า ผมได้ไปเที่ยวสถานบริการแห่งหนึ่ง ร้านคารโอเกะ แล้วก้ได้ไปต่อ อ่าฮะๆ กับสาวนั่งดริ้ง แล้วปรากฎถุงเจ้ากรรมดันแตก ผมจึงถอดออกมาทันทั่วงที โดยขณะนั้นใช้เวลา ในขณะน้องชายของผม อยุ่ในช่องคลอดเธอไม่เกิน 5 วินาทีโดยประมาณ ผมจึงรีบถอดออกแล้วนำไปล้างด้วยน้ำ แต่ไม่ได้ฟอกสบู่ โดยมีสารคัดหลั่งของน้องเขาติดออกมากับส่วนปลายทั้งหมดของน้้องชายผม แต่ไม่มากนัก

ผมด้วยความรู้สึกฟีลมันหมด รีบออกมาเลย แล้วด้วยความวิตก จึงได้ไปพบแพทธ์ ในอีก 30 นาทีต่อมา โดยแพทธ์ให้ให้ยาต้านกับผม ZILARVIR Tab. [3TC + AZT] โดยในขณะที่ผมถุงแตกเป็นเวลา 0.28 น ยามดึก แล้วพอผมกลับถึงบ้านจึงทานยาไป เวลา 2.40 น แล้วได้ทำการชำระล้างน้องชายผมด้วยสบู่ หลายครั้ง รวมทั้ง แอลกอฮอลฆ่าเชื่ออีกหลายครั้ง และได้ตรวจสอบน้องชาย ไม่ได้มีอาการแสบ หรือเป็นแผลแต่อย่างใด

คำถามครับ

1. ในขณะที่ถุงยางแตก แล้วใช้เวลาน้อยมากที่อยู่ในช่องคลอดเธอ [สมมุติว่าเธอมีเชื้อ HIV] ผมมีโอกาสที่จะได้รับเชื่อ HIV ไหมครับ

2. ผมสามารถไปตรวจ NAT ในขณะที่ผมยังทานยาต้านได้ไหมครับ

3. ถ้าผมตรวจ NAT ออกมาเป็น ผลลบ ผมสามารถเลิกยาต้านได้ไหมครับ มันมีผลข้างเคียงทำให้ผมไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติครับ

4. ขออภัยผมอาจจะวิตกไปเอง แต่กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าพลาดก็ต้องพยายามให้ถึงที่สุดก่อนจะสายเกินไป

ขออภัยในความวิตกจริตของผม และขอบคุณจากใจจริงครับ ด้วยความนับถือ

อายุ: 26 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 94 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 29.01 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

20 สิงหาคม 2557 15:09:06 #2

1. มีการศึกษาโอกาสของการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ 1 ครั้ง จากมากไปน้อยดังนี้ ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางทวารหนัก 0.5% หญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางช่องคลอด 0.1% ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ทางทวารหนัก 0.065% ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ช่องคลอด 0.05% ชายหรือหญิงเป็ยฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์ 0.01% ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ 0.005% อย่างไรก็ตามโอกาสจะเพิ่มขึนถ้าเป็นกามโรคหรือมีแผลด้วย ในกรณีของคุณ เนื่องจากว่า รีบดึงออกและไม่ได้ร่วมเพศต่อ โอกาสน่าจะน้อยกว่า 0.05 %

2. การกินยาป้องกัน ต้องตรวจเลือดก่อนว่าไม่มีการติดเชื้อ ถึงจะกินได้ ถ้าคุณตรวจแล้วว่าไม่ติดเชชื้อ และกินยาต้านไใรัสเร็ว ก็มีโอกาสที่จะป้องกันได้ แต่ไม่มีข้อมูลว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเท่าไร ส่วเนื่องการตรวจเลือดในขณะกินยาต้านเพื่อป้องกัน ก็อาจจะมีผลต่อการตรวจเลือดได้ เช่นอาจมีผลลบปลอม หมายความว่าติดเชื้อแต่ตรวจไม่พบ

3. การตรวจหลังมีความเสี่ยงที่ได้ผลเร็วที่สุด คือ NAAT แต่ถ้าผลเป็นลบไม่ได้หมายความว่าไม่ติดเชื้อ ควจจะตรวจซ้ำเมื่อมีความเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็มั่นใจได้ 99.9 % จึงมักจะแนะนำให้ตรวจอีกครั้งเมื่อเสี่ยงครบ 6 เดือน