กระดานสุขภาพ

อยากเเน่ใจว่าจะไม่ท้องต้องทำไงครับ
Tat*****t

18 กรกฎาคม 2557 15:01:39 #1

คุรหมอครับ ตอนนี้เครียดมากๆเลยครับ คือ มี พสพ กับเเฟน ข่วง วันที่9/7/14 เเต่ใส่ถุงยางด้วยครับ เเต่เเฟนเป็นกังวลที่จะท้อง เลยกินยาคุมฉุกเฉินไปทันที่หลัง มี พสพ   เเต่เเล้ว วันที่12/7/14 เวลา ประมาณ 11โมง ถึงเที่ยง ก้อได้มี พสพ กับเเฟนอีกครั้ง คราวนี้ก้อใส่ถุงยาง เเต่คราวนี้ตอนเเรกเเฟนไม่เครียด เเต่มาคิดมากทีหลังเลยกินยาคุมฉุกเฉิน ไปในวันที่ 14/7/14 เวลา 10.45 เช้า เเล้วมันยังอยู่ภายใน72 ชม ตามที่ฉลากบอก ก้อไม่ได้คิดมากอะไรเเล้ว เเล้ว วันที่14/7/14เรามี พสพ กัน ช่วงเที่ยง อีกครั้งโดยใส่ถุงยางด้วย เเต่ไม่ได้กินยาคุมเเล้ว เพราะคิดว่าเพิ่งกินไปตอนเช้า วันที่14เเละกินอีกเม็ดภายใน12 ชม เวลา4ทุ่ม45 ตามฉลาก เเล้ว เลยไม่ได้คิดไรมากเเล้ว เเล้ว วันที่ 14ช่วงกลางวัน หลังจากมี พสพ ทันที เเฟนรู้สึกปวดท้องหน่วงๆ เเต่ไม่รุ้ว่าเกิดจากอะไร เลยไม่ได้คิดอะไรมาก เเล้ววันที่17/7/14ก้อได้มีอะไรกันอีกเเละใส่ถุงยางอีกเเน่นอน (ทุกครั้งที่มี พสพ กัน ใส่ถุงยางทุกครั้ง เเละ หลั่งนอกทุกครั้ง) ผม กับแฟนก้อเลยรอวันที่ ปจด จะมา ปกติ ปจด จะมาประมานวันที่25 ของทุกเดือน เเต่ เเฟนตอนนี้ วันที่18เเฟนมีอาการ หงุดหงิดง่าย ปวดหัวหลังหงุดหงิด เลยไม่ทราบว่าไช่อาการของคนท้องหรือไม่ เเล้วเเฟนถามว่า ถ้าอยากไห้ ปจด มาเร็วๆ กินยาสตรีเพ็ญพาก ได้มั้ย หรือควรจะรอวันที่25 หรือ ควรทำอย่างไรไห้เเน่ใจเเน่ๆว่าจะไม่ท้อง ช่วยหน่อยน้ะครับ

อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.99 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Tat*****t

18 กรกฎาคม 2557 15:06:38 #2

เเล้วช่วงนี้เเฟนรู้สึกเหนื่อยๆ ง่าย ใขอาการคนท้องไหมครับ

 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

21 กรกฎาคม 2557 03:28:52 #3

หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้ มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องฮอร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ ซึ่งจากประวัติทั้งหมดนั้น มีการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินติดต่อกันบ่อยมากๆ ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ อาการที่มีต่างๆนั้น เป็นอาการที่ไม่ได้จำเพาะหรือเป็นอาการของการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ

ส่วนในเรื่องประจำเดือนที่ยังไม่มานั้น แน่นอนครับ เกิดจากผลของยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน และ ไม่ควรไปทานยาอะไรซ้ำไปอีกที่เพื่อจะเร่งประจำเดือน เนื่องจากยาในกลุ่มที่กล่าวมานั้น ซึ่งตามความเห็นของหมอแล้ว ยาที่กล่าวมานั้นมีตัวยาเป็นยาที่มีประโยชน์ครับ แต่อาจมีส่วนผสมของสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนผู้หญิง (Phytoestogen) ซึ่งการควบคุมปริมาณของสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนที่ต้องการมารักษาอาการผิดปกตินั้น ทำได้ยากมาก ไม่สามารถทำให้คงที่ แน่นอนในแต่ละครั้งที่ทาน และยังมีความแตกต่างในด้านส่วนประกอบในแต่ละชนิดยาอีกด้วย ดังนั้น การที่จะนำมาเพื่อการรักษาอาการเลือดประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาใช้เพื่อควบคุมปรับรอบประจำเดือนนั้น ยังอาจนำมาใช้ค่อนข้างยากลำบากครับ เนื่องจากมีผลต่อการตกไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่ ซึ่งมีผลต่อทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้ครับ และ อาจยังทำให้เลือดประจำเดือนมาผิดปกติได้ อาจมาปริมาณมาก กะปริดกะปรอยได้อีกด้วย ดังนั้น ในความเห็นของหมอ หมอคิดว่า ไม่ควรทานยาประเภทนี้เพื่อการรักษาเรื่องประจำเดือนผิดปกตินะครับ เพราะ นอกจากจะไม่รักษาที่สาเหตุแล้ว ยังอาจทำให้สับสนได้ว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นใหม่นั้น เกิดจากอะไร ดังนั้น ในความคิดเห็นของหมอแล้วนั้น ไม่ควรทานยาอะไรก็ตามอีก และให้สังเกตอาการในเรื่องประจำเดือนก่อน หากประจำเดือนมาไม่เป็นรอบ ไม่สม่ำเสมอ กะปริดกะปรอย ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ ส่วนในเรื่องการตรวจการตั้งครรภ์นั้น หากใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์นะครับ ไม่จำเป็นต้องตรวจก็ได้ครับ

สุดท้าย หมอขอฝากเรื่องการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ การทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินบ่อยๆ หรือ เป็นกิจวัตรนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเนื่องจาก ผลข้างเคียงของยาแล้ว ยังมีผลทำให้การป้องกันมีประสิทธิภาพน้อยลง เลือดประจำเดือนมาไม่เป็นรอบ กะปริดกะปรอย เป็นต้นครับ ควรคุมกำเนิดด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพดีกว่านี้ เช่น ยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้น และก็ไม่ต้องมากังวลเรื่องตั้งครรภ์อีกด้วยครับ ด้วยความเป็นห่วง