กระดานสุขภาพ
| ขอความรู้เเป็นวิทยาทาน | |
|---|---|
|
19 พฤษภาคม 2557 17:00:50 #1 ผมขาดความมั่นในแง่ของถุงยางอนามัยในเรื่องความสามารถในการป้องกันโรคเอดส์ คุณหมอหลายท่านในนี้ได้บอกว่าหากมีการใช้ถุงยางทุกครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์ก็จะสามารถป้องกันโรคเอดส์ได้ เเต่ทำไมงานวิจัยทางวิชาการที่น่าเชื่อถือกลับบอกวว่าถุงยางป้องเอดส์ได้ประมาณ 80-87%. อาทิเช่น http://www.guttmacher.org/pubs/journals/3127299.html, http://www.amfar.org/uploadedfiles/in_the_community/publications/condombrief.pdf หรือแพทย์ต่างประเทศบอกว่ายังมีความเสี่ยงในการติดเอดส์ถึงแม้จะใช้ถุงยางก็ตาม http://www.askdrtan.com/forum/question/5829 หรือศูนย์ที่น่าเชือถืออย่าง CDC. (Center for Disease Control) กลับบอกว่าถุงยางสามารถป้องกันได้หากไม่ขาดหรือใช้ถุงยางทุกครั้ง ผมควรมั่นใจในการใช้ถุงยางทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ครับคุณหมอ รบกวนคุณหมอด้วยน่ะครับขอบคุณคุณหมอมากครับ |
|
| อายุ: 36 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.71 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
20 พฤษภาคม 2557 14:45:17 #2 มีการศึกษาคุณสมบัติของถุงยางอนามัยในห้องปฎิบัติการหรือห้องแล็บ พบว่าเชื้อไวรัสเอดส์ไม่สามารถผ่านถุงยางได้ เพราะฉะนั้น ถ้ามีการใส่อย่างถูกวิธี คือใส่ก่อนมีการสอดใส่ ถุงยางไม่ขาดหรือรั่วระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ถอดถุงยางทันทีหลังมีการหลั่งโดยไม่รอให้อวัยวะเพศอ่อนตัว เพราะถุงยางอาจจะหลุดก่อนได้ ก็น่าจะป็องกันโรคได้แน่นอน การศึกษาที่อ้างถึงเป็นการสอบถามพฤติกรรมซึ่งผู้ที่ตอบว่าใช้ อาจจะใช้หรือไม่ใช้ หรือใช้แต่อาจมีการสอดใส่ก่อนแล้วค่อยมาใส่ถุงยางทีหลัง หรืออาจมีออรัลเซ็กส์โดยไม่ใส่ถุง หรืออาจมีปัจจัยอื่นๆ เช่น เป็นกามโรค เป็นแผลที่อยู่นอกเหนือบริเวณที่ถุงยางคลุมถึง เช่น ที่โคนอวัยวะเพศ หรือแผลที่ขาหนีบ ลูกอัณฑะ เป็นต้น ส่วนการศึกษาของ amfar ยืนยันว่าถ้าใช้ถุงยางอย่างถูกวิธีก็ป้องกันการติดเชื้อได้สูงถึง 95 % |
Huck*****9 |
21 พฤษภาคม 2557 06:49:30 #3 ขอบคุณครับคุณหมอเป็นความรู้ที่มีค่า ถุงยางป้องกันสูงสุดถึง 95% อีก 5% คือปัจจัยนอกการควบคุม เช่นถุงแตก-หรือรั่ว เหรอครับ ขอขอบคุณหมอนุพงศ์มากครับ |
Huck*****9