กระดานสุขภาพ

ลิ้นฝ่าขาว มีกลิ่น ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว
Mong*****y

22 กรกฎาคม 2559 23:44:52 #1

สวัสดีครับ ผมมีอาการปวดหัว ตาพร่ามัว บางทีก็ปวดขมับร่วมด้วย ลิ้นฝ่าขาวมีกลิ่น ท้องร่วงด้วยครับ อยากทราบว่ามีส่วนที่จะติดเชื้อโรคร้ายมั้ยครับ
อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 86 กก. ส่วนสูง: 169ซม. ดัชนีมวลกาย : 30.11 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Mong*****y

26 กรกฎาคม 2559 18:42:23 #2

ตอบกลับผมหน่อยครับ กังวลมาก
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

27 กรกฎาคม 2559 03:35:42 #3

การติดต่อของโรคเอดส์หรือการติดเชื้อเอชไอวี 1. มีการร่วมเพศโดยไม่ใช้ถุงยางกับคนที่ติดเชื้อเอดส์ 2. ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนที่ติดเชื้อเอดส์ 3. ได้รับเลือดบริจาคที่มีเชื้อเอดส์ และ 4 ติดเชื้อจากแม่ที่ติดเชื้อเอดส์ขณะตั้งครรภ์ ส่วนเรื่องอาการของการติดเชื้อเอดส์ หรือไวรัสเอชไอวี ขออธิบายดังนี้ 1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ 2. ระยะที่ไม่มีอาการจะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด 3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น โดยสรุป ถ้ามีควาเมสี่ยงตามที่ได้กล่าวแล้ว การติดเชื้อเดส์อาจจะมีอาการดังกล่าวหรืออยู่ในะรยะที่ไม่มีอาการก็ได้ ถ้ามีความเสี่ยง ก็ควรจะตรวจเลือดโดยใช้สิทธิที่มี เช่น ประกันสังคม บัตรทอง ไม่ต้องเสียค่าตรวจ ส่วนเรื่องอาการต่างๆที่ถามมาไม่เฉพาะเจาะจงต่อการติดเชื้อเอดส์ อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีความเสี่ยง ก็ไม่ต้อวงกังว แต่ถ้ามีความเสี่ยง แนะนำตรวจเลือดตามที่ได้บอกไปแล้ว