กระดานสุขภาพ

ตวงและให้ยา augmentin ลูกผิดขนาด
Momm*****m

8 พฤษภาคม 2561 14:08:06 #1

ลูกชายต่อมทอนซิลอักเสบ หมอให้ทาน augmentin457/5ml 6.8cc เช้าและเย็น แต่แม่ตวงยาผิดและให้ลูกทานเป็น 7.8cc เช้าและเย็นไป 4วันแล้ว อาการลูกดีขึ้นแล้วแต่ยังไม่ครบคอร์ส ควรให้ยา ปริมาณเท่าไรในคราวต่อๆไปคะ 6.8 หรือ 7.8 cc อีกคำถามค่ะ (ไม่เกี่ยวกับลูกชายแต่แม่อยากทราบ)augmentin ปริมาณที่กินต่อครั้งสามารถลดลงได้หรือไม่ เช่น หากปัจจุบันใช้ 8cc คราวถัดไป เหลือ 7.5 และภาวะดื้อยาฆ่าเชื้อในคนคนหนึ่งสามารถดีขึ้นหรือหายไปได้หรือไม่ ขอบคุณมากๆค่ะ
อายุ: 6 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 24 กก. ส่วนสูง: 120ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.67 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

13 พฤษภาคม 2561 17:58:40 #2

เรียน คุณ Mommypim,

ก่อนตอบคำถามของคุณ ขอแนะนำว่าก่อนการให้ยาใด ๆก็ตาม ต้องอ่านฉลากให้เข้าใจก่อนเริ่มต้นการใช้ยาทุกครั้ง อย่าใช้เพียงการจำจากคลินิกหรือโรงพยาบาล เนื่องจากยาบางชนิดมีค่าความปลอดภัยต่ำ หากผิดขนาดไปเพียงนิดเดียว อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เช่น พวกยาต้านชัก หรือพาราเซตามอล โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ซึ่งมีประสิทธิภาพการทำงานของตับหรือไตน้อยกว่าผู้ใหญ่อย่างมาก "เด็กเล็ก ไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่ย่อส่วน" นะครับ

กลับมาที่คำถามของคุณ ขอแยกตอบเป็นประเด็นนะครับ คือ

1. การรับประทานยาปฏิชีวนะ ต้องรับประทานยาให้ครบตามขนาดและระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ

ส่วนการรับประทานยามื้อต่อมานั้น ให้รับประทานขนาดที่แพทย์สั่ง คือ 6.8 ML ส่วนเรื่องระยะเวลาการรักษา ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยว่าเป็นการติดเชื้อที่อวัยวะส่วนใด หากเป็นหูชั้นกลางอักเสบ ต้องรับประทานให้ครบ 14 วัน หากเป็นการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น คออักเสบ คอหอยอักเสบ ฯ ก็อาจรับประทานเพียง 7 วันได้

2. เกี่ยวกับขนาดของการใช้ยา ในเด็กจะขึ้นกับน้ำหนักตัวครับ แต่ต้องไม่เกินขนาดของผู้ใหญ่ ซึ่งปัจจุบันพบมากขึ้น เนื่องจากเด็กเกิดโรคอ้วน จากภาวะทุพโภชนาการ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการขาดสารอาหาร แต่รวมถึงการได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ไม่สมดุลอีกด้วย

ทั้งนี้ หากเป็นยาปฏิชีวนะ หลายรายการสามารถปรับเพิ่มจากขนาดเดิมได้ หากเป็นการติดเชื้อที่รุนแรง หรือไปที่อวัยวะที่เข้าถึงได้ยาก เป็นต้น เช่น ยา amoxicillin มีขนาดเป็นช่วงการรักษา คือ 25-40 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน เป็นต้น

3 ส่วนเรื่องภาวะเชื้อดื้อยา ในการศึกษาวิจัย เดิมที่พบว่าเชื้อดื้อยาจะยังคงอยู่อีก 3 เดือน แต่ปัจจุบันพบว่ายังคงพบเชื้อชนิดเดิมที่เกิดการดื้อยาไปแล้วในร่างกายต่ออีก 9 เดือน แพทย์และเภสัชกรจึงมักเน้นย้ำเสมอว่า หากจำเป็นต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ ต้องรับประทานให้ครบตามขนาดและระยะการรักษาเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อดื้อยา
ทั้งนี้แม้ตัวน้องจะหายขาดแล้วก็ตาม แต่อาจติดเชื้อดื้อยาจาก สารคัดหลั่งของผู้อื่นได้อีก เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ ฯ
กรณีเป็นผู้ป่วยเอง ต้องสวมหน้ากากอนามัยเสมอ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น และป้องกันการรับเชื้อแทรกซ้อนเพิ่มเติม

ปฏิบัติตามพฤติกรรรมสุขภาพ "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน เนื่องจากเป็นทางที่จะเกิดการติดเชื้อกลับไปมาได้

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจต้องมีข้อมูลเพิ่มเติม หรืออาจช้าไปไม่ท้นการ เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

เป็นกำลังใจให้นะครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

  • ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)
  • เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
  • หลักการใช้ยาปฏิชีวนะ (Effective use of antibiotics)
  • ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
  • วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์
Momm*****m

15 พฤษภาคม 2561 07:35:56 #3

ขอบคุณ ภก.ประดิษฐ์มากค่ะ