กระดานสุขภาพ

เกี่ยวกับยาคุมกำเนิด
Beau*****a

12 กุมภาพันธ์ 2556 10:26:07 #1

ระหว่างที่ทานยาคุมแผงที่ 2 ได้ประมาณ 9 วัน (สัปดาห์ที่ 2) ปกติจะทานยาคุมตอนประมาณ 4 ทุ่ม ก่อนทานยาคุมมีอาการท้องเสียเหมือนอาหารเป็นพิษ 1 ครั้ง และหลังจากทานยาคุมประมาณ 4 ชั่วโมง (ตี 2- ตี 3) ก็เกิดอาการท้องเสียอีก 2 ครั้ง พอตอนเช้าวันรุ่งขึ้นตอน 8-9 โมงเกิดอาการท้องเสียอีก 1 ครั้ง ดิฉันเลยทานยาคุมไปอีก 1 เม็ดตอนประมาณ 9 โมงกว่า ซึ่งไม่เกิน 12 ชั่วโมงนับจากยาที่ทานตอน 4 ทุ่ม .... เนื่องจากดิฉันกลัวว่ายาจะดูดซึมได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และหลังจากนั้นดิฉันก็หยุดถ่าย พอตกกลางคืน 4 ทุ่ม ดิฉันก็ทานยาคุมตามปกติเหมือนเดิมจนหมดแผง ครบ 21 วัน หลังจากครบ 21 วันแล้ว ช่วงเว้น 7 วัน ประมาณวันที่ 4 ประจำเดือนดิฉันก็มาปกติ ซึ่งตรงกับเมื่อเดือนที่แล้ว 

จากเหตุการณ์ที่เล่า คำถามคือ หลังจากครบ 21 วันแล้ว ดิฉันต้องหยุดยา 7 วัน แล้วเริ่มทานยาคุมแผงที่ 3 ในคืนวันที่ 8 ใช่ไหมค่ะ ประสิทธิภาพของยาแผงที่ 3 ยังคงเหมือนเดิมใช่ไหมค่ะ 

มีวันหนึ่งดิฉันไปถามร้านขายยาที่หนึ่ง เขาบอกดิฉันว่าให้เว้นแค่ 6 วัน และเริ่มแผงใหม่วันที่ 7 และก็ไม่มีคำอธิบายอะไร ....

แต่ฉลากยาและเดือนก่อนหน้านั้นดิฉันก็หยุดยาคุมครบ 7 วันและเริ่มแผงใหม่วันที่ 8  (ดิฉันเริ่มทานยาคุมวันศุกร์ ครบ 21 วันคือวัน พฤหัส และเว้น ไป 7 วัน เริ่มแผงใหม่วันที่ 8 ซึ่งตรงกับวันศุกร์พอดี )  

ดิฉันเลยเกิดอาการสับสนอย่างมากเลยค่ะ ว่ายังไงกันแน่ นี่ก็จะขึ้นแผงใหม่แล้ว 

***รบกวนด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ****

อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 49 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.44 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

12 กุมภาพันธ์ 2556 14:21:19 #2

เรียน คุณ Beauna,

จากข้อมูลที่คุณให้มา หากคุณรับประทานเสริมอีก 1 เม็ด ในตอนเช้า 9 โมง ยาที่คุณรับประทาน ก็จะไม่ครบ 21 วัน ถูกต้องไหมครับ คือคุณจะได้รับยาทั้งหมด 21 เม็ด ภายในเวลา 20 วัน ทางร้านยากังวลว่าระดับยาอาจจะต่ำลงเร็วเกินไป จึงแนะนำให้รับประทานเร็วขึ้น

แต่โดยหลักการแล้ว ไม่จำเป็นนะครับ ให้เว้น 7 วัน แล้วจึงเริ่มรับประทาน เวลา 4 ทุ่มของวันที่นับไปเป็นวันที่ 8 หลังจากยาครบ 21 วันแล้ว ถ้าปฏิบัติแบบนี้ รอบเดือนคุณจะเป็น 28 วัน ทุกเดือนครับ

ส่วนเรื่องประิสิทธิภาพของแผงที่ 3 ก็จะัยังได้ผลเหมือนเดิมครับ เนื่องจากวันที่เริ่มรับประทานยาเม็ดแรก ช้าสุดได้ถึงวันที่ 5 ของรอบเดือนได้ ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะครับ

แนวปฏิบัติโดยทั่้วไป หากมีอาเจียนหรือท้องเสีย ถ้าไม่เกิน 30 นาที ให้รับประทานยาเม็ดใหม่เข้าไปครับ แต่ถ้าเกิน 1 ชั่วโมงไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องรับประทานเสริม เนื่องจากจะมีตัวยาถูกดูดซึมไปแล้ว แม้จะไม่ 100% ซึ่งอาจทำให้ระดับยาเกินขนาด จนอาจเกิดอาการไม่พีึงประสงค์ได้นะครับ

 

เภสัชกรประิดิษฐ์ งามศิริผล

Beau*****a

13 กุมภาพันธ์ 2556 04:00:25 #3

ขอบคุณค่ะ เม็ดที่ทานเสริมตอน 9 โมง คือแผงใหม่ (เป็นแผงสำรอง) ดิฉันก็ทานยาครบ 21 วันค่ะ รวมเป็น 22 เม็ดค่ะ 

อย่างนี้ก็เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่คืนวันที่ 8 เหมือนเดิมเลยใช่ไหมค่ะ 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

14 กุมภาพันธ์ 2556 14:24:53 #4

เรียน คุณ Beauna,

ถ้าเป็นตามข้อมูลที่คุณให้มา เริ่มคืนวันที่ 8 เหมือนกันทุกแผงได้เลยครับ แต่คราวต่อไปคงไม่ต้องซื้อแผงใหม่มาเสริมก็ได้นะครับ จะเปลืองเงินโดยใช่เหตุ หรือหากคุณมีไว้เสริมในเม็ดที่ตกหล่น หรือขาดหายไป

อย่าลืมตรวจสอบเรื่องวันหมดอายุของแผงที่ใช้เสริมด้วยนะครับ

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Beau*****a

18 กุมภาพันธ์ 2556 16:07:47 #5

ยา คลอร์-ไฟแร็ด คลอแรมเฟนิคอล ( CHLOR-PYRAD Chlorampphenicol ): ใช้รักษาแผลพุพอง ติดเชื้อ แผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ เป็นสิวหนอง 

ยาชนิดนี้มีผลกับยาเม็ดคุมกำเนิดไหมค่ะ พอดีว่าโดนของร้อนแล้วใช้ยานี้ทาที่มือ บริเวณที่โดนของร้อนค่ะ เลยอยากทาบว่ายาทาประเภทนี้ มีผลอะไรกับยาเม็ดคุมกำเนิดที่ทานไหมค่ะ มันจะไปลดประสิทธิภาพยาเม็ดคุมกำเนิดลงไหมค่ะ ขอบคุณมากค่ะ 

Beau*****a

18 กุมภาพันธ์ 2556 16:34:44 #6

เป็นยาชนิดครีม ไว้ทาค่ะ 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

20 กุมภาพันธ์ 2556 02:58:06 #7

เรียน คุณ Beauna,

จากคำถามของคุณ ก่อนอื่นขอแจ้งว่าถ้าเป็นยาทา ระดับการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจะน้อยมากนะครับ หากไม่ใช่เป็นแผลเปิดโดยตรง หรือหากดูดซึมเข้าไปบ้าง ก็ไม่พบว่ามีรายงานการลดประสิทธิภาพของยารับประทานคุมกำเนิดครับ
ขออนุญาตแนะนำว่าไม่ควรใช้ยานี้บ่อย ๆนะครับ เนื่องจากยานี้เป็นยาที่มีการใช้ภายในร่างกายอยู่บ้าง หากมีการได้รับทางผิวหนังบ่อย ๆ อาจเป็นสาเหตุของเชื้อดื้อยา หรือกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อตัวยา ทำให้เกิดอาการแพ้ยาได้

หากโดนของร้อน ให้แช่น้ำเย็นหรือน้ำแข็งทันทีนะครับ เพื่อหยุดยั้งความร้อนที่จะส่งผ่านลงไปถึงเนื้อด้านล่างผิวหนัง และหยุดกระบวนการอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อนได้ หลังจากนั้นให้ระวังอย่าให้ตุ่มพองแตก จะลดโอกาสติดเชื้อ และการเกิดแผลเป็นด้วย

ถ้าจำเป็นต้องทายาปฏิชีวนะลอง povidone iodine (Betadine) ก็พอนะครับ

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Beau*****a

22 กุมภาพันธ์ 2556 11:06:09 #8

ยา คลอร์-ไฟแร็ด คลอแรมเฟนิคอล เป็นจำพวกยาปฏิชีวนะ ใช่ไหมค่ะ ถึงแม้จะเป็นยาปฏิชีวนะชนิดทา ระดับการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจะน้อยมาก หากไม่ใช่เป็นแผลเปิดโดยตรง และก็ไม่ลดประสิทธิภาพของยารับประทานคุมกำเนิด ยาคุมกำเนิดยังคงออกฤทธิ์เหมือนเดิมใช่ไหมค่ะ ดิฉันเข้าถูกต้องใช่ไหมค่ะ

พอดีว่าพึ่งมาดูทีหลังดันเป็นยาที่หมดอายุไปแล้ว ประมาณ3 เดือน แต่ยาไม่เปลี่ยนสีนะค่ะ อย่างนี้จะเป็นอันตรายอะไรไหมค่ะ (ตอนนั้นรีบค่ะ ไม่ทันได้อ่านวัน หมดอายุค่ะ)

ขอบคุณมากๆๆ ค่ะ สำหรับทุกๆๆคำตอบ 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

25 กุมภาพันธ์ 2556 02:52:04 #9

เรียน คุณ Beauna

  1. ตามความเข้าใจแรกถูกต้องแล้วครับ ไม่พบว่ามีผลลดระดับยาคุมกำเนิด

  2. ส่วนยาที่หมดอายุไปแล้ว โชคดีครับ ที่ยาตัวนี้เมื่อเสื่อมสลาย ไม่กลายเป็นยาที่ก่อให้เกิดพิษต่อร่างกาย ยาที่หมดอายุแล้วควรทิ้งไป โดยบีบยาที่เหลือทิ้งในถุงพลาสติก มัดปากถุงให้แน่น จากนั้นทิ้งซากหลอดและยาลงในถังขยะมีพิษ (ถังสีเทา) บีบยาทิ้ง เพื่อป้องกันคนอื่นนำยาไปใช้อีก ส่วนที่แยกทิ้งไว้ในถังสีเทา ทางกทม. จะนำไปเผาทำลาย เพื่อป้องกันสารเคมี ปนเปื้อนลงไปในดินหรือน้ำครับ

 

ควรตรวจสอบวันหมดอายุของยาสม่ำเสมอ ทุกเดือน ส่วนสีของยาใช้บอกได้เบื้องต้น ถ้ายังไม่ถึงวันหมดอายุของยาครับ
แต่ถ้าถึงวันหมดอายุแล้ว ก็ถือว่าประสิทธิภาพของยาลดลงไปแล้ว

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผ