กระดานสุขภาพ

ทานยา**** จะมีผลกระทบกับยาคุมไหมคะ
Anonymous

29 ตุลาคม 2559 11:11:13 #1

พอดีว่าหนูกินยาคุมฉุกเฉิน กินไปสองสัปดาห์ก็มีประจำเดือนจึงเริ่มกินยาคุมยี่ห้อ มาร์วีลอน แบบ 28 เม็ด อยากถามคุณหมอ 1.ระหว่างกินยาคุม มาร์วีลอน แล้วหนูก็กินยาสตรีฟลอร่าด้วย กินยาสตรี เช้า กับ เย็น กินยาคุมตอน 21.00 น. แล้วยาสตรีฟลอร่าจะไปลดประสิทธิภาพของยาคุมไหมค่ะ 2. หนูสามารถมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งในแล้วไม่ท้อง เพราะหนูกินยาคุมแบบเป็นเดือนแล้วใช่ไหมค่ะ
อายุ: 23 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.43 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

2 พฤศจิกายน 2559 03:55:58 #2

เรียน คุณ 153fb,

ก่อนตอบคำถามของคุณ แนะนำว่าไม่ควรซื้อยา, สมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ หรืออาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพ จนเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ กลับมาที่คำถามของคุณ

1. ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น ทางการแพทย์ให้ใช้เมื่อไม่สามารถวางแผนคุมกำเนิดได้ตามปกติ เช่น เมื่อถูกข่มขืน หรือ ถุงยางอนามัยฉีกขาด รั่วซึม (ซึ่งเกิดขึ้นได้ยากมากๆหากมีการเก็บรักษาถูกต้อง ไม่ตากแดด หรือเก็บในที่ร้อน ไม่วางใกล้ของมีคม / เลือกขนาดอย่างถูกต้อง (ไม่คับแน่น หรือ หลวมจนอาจหลุด) / บีบช่องส่วนปลาย เพื่อไล่อากาศ มิฉะนั้นจะแตก / ถอดออกอย่างถูกต้อง โดยถอดออกขณะองคชาติยังแข็งตัวอยู่ แล้วใช้กระดาษชำระรูดออกตั้งแต่โคน)
โดยที่ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น มีขนาดยาที่สูง คือ 1500 ไมโครกรัม (ยาคุมปกติ 50-75 ไมโครกรัม) แต่ประสิทธิภาพคุมกำเนิด 70-85 เปอร์เซ็นต์ (ยาคุมปกติ หากรับประทานยาอย่างถูกต้อง คือ น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์) นอกจากนี้ ยังพบว่าสตรีที่ได้รับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมากเกินกว่า 2 กล่องต่อเดือน จะมีอัตราเสี่ยงในการเสียชีวิตจากการตกเลือดภายในช่องท้อง สาเหตุจากการตั้งครรภ์นอกมดลูก และสตรีที่ได้รับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมากกว่า 3 ครั้ง ตลอดชีวิต มีอัตราเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่ออวัยวะต่าง ๆสูงมากกว่าสตรีที่ได้รับประทานยาคุมกำเนิดปกติ เช่น มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก/รังไข่ หรือมะเร็งตับ เป็นต้น

หากคุณยังไม่ได้แต่งงานอาจพิจารณาใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งนอกจากช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน เริม ตับอักเสบชนิดบี/ซี หรือโชคร้ายสุด คือ เอชไอวี ที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ ที่ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายขาด และยังช่วยป้องกันไวรัส เอชพีวี (HPV - human Papilloma virus) ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิง หรือหูดหงอนไก่ มะเร็งองคชาติในเพศชาย อีกด้วย

2. ยาสตรีนั้นมีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์และสมุนไพรที่มีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน สมัยก่อนรับประทานสำหรับผู้ที่มีฮอร์โมนไม่สม่ำเสมอ หรือหญิงวัยหมดประจำเดือน เพื่อเสริมฮอร์โมน
ดังนั้นหากยังคงมีประจำเดือน ร่างกายก็จะได้รับฮอร์โมนเพศกระตุ้นเพิ่มขึ้นจากเดิม เสี่ยงต่อการเกิดก้อนที่เต้านม หรือมดลูกหรือรังไข่ได้ และหากมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่ไวต่อฮอร์โมนเพศ ก็มีโอกาสที่จะกลายพันธุ์ได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ ฮอร์โมนเอสโตรเจนในยาสตรี ยังอาจต้านฤทธิ์กับยาคุมกำเนิดได้ เพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์หรือเกิดหลอดเลือดอุดตันได้

3. ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด ออกฤทธิ์ได้ตั้งแต่รับประทานยาเม็ดแรกครบ 24 ชั่วโมง (รับประทานยาเม็ดแรกภายในวันแรกของการมีประจำเดือน หรือไม่เกินวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน) ออกฤทธิ์ต่อเนื่องแบบเม็ดต่อเม็ด หากลืมรับประทานยาเกิน 2 เม็ด ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์จะเท่ากับสตรีที่ไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิด โดยเฉพาะ 14 วันแรกของรอบเดือน และเมื่อรับประทานยาครบแผง มีประจำเดือนมาตามปกติ หากไม่ได้รับประทานยาต่อ ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ ก็เท่ากับไม่ได้รับประทานยา ไม่มีการสะสมของตัวยา

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
สูตินรีแพทย์

ยาสตรี ยาสตรีไม่ใช่ยาทำแท้ง (Tonic herb for women)
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

และ บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน จากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สมุนไพรกับยาแผนปัจจุบัน..กินด้วยกันดีมั้ย?

Pawi*****e

10 พฤศจิกายน 2559 09:28:53 #3

ตอนกินยุมไปได้ 14 เม็ดแล้วค่ะ แต่มีเลือดออกกระปริบกระปอย หนูจะเป็นอะไรไหมค่ะ
Pawi*****e

13 พฤศจิกายน 2559 12:57:44 #4

Anonymous

13 พฤศจิกายน 2559 12:59:29 #5