กระดานสุขภาพ

ยา Rohypnol
Pope*****1

16 ธันวาคม 2555 01:19:55 #1

อยากทราบว่ายา Rohypnol มีส่วนผสมของสเตียรอยด์หรือไม่ครับ โดยส่วนตัวค่อนข้างจะระวังเรื่องสเตียรอยด์เป็นพิเศษ และไม่ทานยาลูกกลอนหรือยาแผนโบราณเลย เพราะเคยอ่านเจอว่าสเตียรอยด์จะกดภูมิคุ้มกันและมีโทษเยอะ เนื่องจากโดยส่วนตัวเป็นคนที่ระมัดระวังเรื่องการทานยามาก แต่เมื่อวานทาน Rohypnol ไป 1 เม็ด เพราะมีเหตุจำเป็นต้องนอนให้หลับ

เพิ่มเติมครับ การทานยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ เช่น ยาลูกกลอนและยาแผนโบราณ เพียง 1 ครั้ง จะส่งผลกระทบต่อร่างกายเรามากไหมครับ และฤทธิ์ของยาที่ผสมสเตียรอยด์จะอยู่ในร่างกายเรานานแค่ไหนครับ

อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.52 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

17 ธันวาคม 2555 16:31:54 #2

เรียน คุณ Pope_0901,

ตามที่คุณสอบถามมา ขออนุญาตตอบเป็นข้อ ๆนะครับ

1. Rohypnol เป็นยาช่วยให้นอนหลับ กลุ่มเบนโซไดอะเซปีน ครับ ไม่ใช่ตัวยาสเตียรอยด์ที่คุณกลัวแต่ประการใด ตัวยานี้หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ อาจส่งให้ผลให้ร่างกายทนต่อยาได้ ต้องรับประทานเพิ่มปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หรือผู้ป่วยบางรายพบว่าเกิดภาวะความจำเสื่อมระยะสั้น ๆได้ หรืออาจเดินละเมอออกไปนอกบ้านจนเกิดอันตรายขึ้นได้ ห้ามรับประทานยานี้ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะเสริมฤทธิ์กดระบบประสาทได้ หากไม่มีความจำเป็นไม่ควรรับประทานยานี้ แนะนำให้ใช้วิธีอื่น ๆก่อนนะครับ เช่น ทางกายภาพ ออกกำลังกาย แต่ไม่ควรจะเป็นตอนเย็นหรือก่อนเข้านอน เพราะจะกลายเป็นทำให้ร่างกายตื่นตัวแทน หากไม่มีข้อห้าม ทดลองสมุนไพร เช่น ชาคาโมมายล์ (เคยเห็นมีจำหน่ายของโครงการหลวง - ราคาไม่แพง) หรืออาหารบางประเภท จะเพิ่มระดับซีโรโตนินในสมอง ช่วยให้ผ่อนคลายและนอนหลับ เช่น กล้วยน้ำว้า นมสดอุ่น ๆ

2. ส่วนยาลูกกลอนหรือยาแผนโบราณที่ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สังเกตได้จากเลขทะเบียน อ.ย. ที่จะไม่มีสเตียรอยด์เจือปนนะครับ มีแต่เฉพาะยาเร่ขาย หรือยาที่ขายทางอินเตอร์เน็ต
ยาลูกกลอนที่ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง จะช่วยสนับสนุนสมุนไพรไทยและภูมิปัญญาชาวบ้านด้วยนะครับ หากไม่แน่ใจ แนะนำผลิตภัณฑ์ของรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์นะครับ มีการทดลองใช้ทางการแพทย์ด้วยครับ

3. ยาสเตียรอยด์เป็นยาที่มีข้อบ่งใช้หลากหลายนะครับ จะเรียกได้ว่าเป็นทั้งผู้เอกและผู้ร้ายในตัวยาเดียวกัน หากมีข้อบ่งใช้ทางการแพทย์ จะช่วยให้การรักษาที่ได้ผลดี เช่น การรักษาโรคหอบหืด ที่ไม่สามารถใช้ตัวยาขยายหลอดลมเพียงอย่างเดียวได้ หรือการรักษาอาการแพ้แบบอนาฟัยแลกซิส ที่ส่งผลต่อชีวิต เช่น การแพ้ถั่วหรืออาหารทะเล แล้วเกิดอาการหน้าบวม ลิ้นบวม หลอดลมบวมตีบ ทำให้ผู้ป่วยหยุดหายใจได้ จำเป็นต้องได้รับยาสเตียรอยด์ร่วมด้วย
โดยธรรมชาติร่างกายมีการสร้างสเตียรอยด์เองอยู่แล้วนะครับ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ เช่น ลดอาการอักเสบ บวม ช่วยเพิ่มการเก็บกลับน้ำเข้าสู่ร่างกาย หรือนำไปสังเคราะห์เป็นฮอร์โมนต่าง ๆของร่างกายได้ แต่หากเป็นการซื้อรับประทานเอง โดยไม่มีข้อบ่งใช้ เช่น ยาชุดตามรถเร่ ที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ หรือ พวกนักกีฬาที่ต้องการโด๊ป เพิ่มกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว หรือในต่างประเทศมักมีเจือปนในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มักโฆษณาว่าช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ มักมีสเตียรอยด์เจือปน การรับประทานสเตียรอยด์เองนี้ หากรับประทานเป็นเวลานาน ๆ โดยเฉพาะขนาดยาสูง ๆ มักส่งผลต่อการสร้างสเตียรอยด์ตามธรรมชาติของร่างกาย แพทย์จึงมักสั่งจ่ายยาขนาดสูง ๆ แต่รับประทานเป็นเวลาสั้น ๆ เช่น 5-7 วัน และต้องมีการค่อย ๆปรับขนาดยาลงเป็นลำดับ เพื่อให้ร่างกายผู้ป่วย ได้มีการปรับตัว ค่อย ๆสร้างสเตียรอยด์ตามธรรมชาติเอง ทดแทนยาที่รับเข้าไป แต่มีบางข้อบ่งใช้ ที่มีภูมิไวเกินต้องมีการรับประทานสเตียรอยด์กดภูมิคุ้มกันไว้ เช่น โรคแพ้ภูมิตนเอง (เอส แอล อี - หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า โรค พุ่มพวง) หรือผู้ป่วยต้องผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ

โดยทั่วไปยาจะมีค่าครึ่งชีวิตประมาณไม่เกิน 24 ชั่วโมง หากไม่มีโรคประจำตัวอื่น เช่น โรค ตับ หรือ โรคไต ร่างกายจะมีกำจัดออกไปได้เอง หากคุณรับประทานเพียง 1 ครั้ง ขนาดปกติที่ใช้ ภายใน 24-48 ชั่วโมง ก็จะกำจัดออกไปหมดจากร่างกายแล้วครับ

ในฐานะเภสัชกร ขอเรียนให้ทราบว่า ยานั้นมีทั้งคุณและโทษ หากคุณเคยได้ฟังข่าวนะครับ ที่ต่างประเทศมีการเตือนไม่ให้มีการใช้ยาพาราเซตามอลพร่ำเพรื่อ เนื่องจากส่งผลต่อตับ และได้มีการปรับขนาดยาที่แนะนำให้ใช้ต่อน้ำหนักตัวลง
ดังนั้นหากมีข้อสงสัยเรื่องการใช้ยา ควรสอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ อย่าเครียดหรือวิตกกังวลจนเกินไป จะได้ไม่ต้องใช้ยาช่วยให้นอนหลับนะครับ

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล