กระดานสุขภาพ

กินยาคุม Meliane เพื่อรักษาโรคถุงน้ำรังไข่
Anonymous

10 พฤษภาคม 2558 09:35:38 #1

เรียน คุณหมอค่ะ

   คือดิฉันตรวจอุลต้าซาวนด์แล้วพบว่ารังไข่ด้านขวามีเนื้องอกขนาดประมาณ 6 cm ทางคุณหมอแนะนำให้ผ่าตัด แต่ดิฉันขอให้ลองรักษาทางยาดูก่อน ดังนั้นคุณหมอจึงให้เลือกว่าจะฉีดยาคุมหรือทานยาคุม ดิฉันจึงเลือกการฉีดเพราะคิดว่าสะดวก แต่เมื่อฉีดได้ประมาณ 20 วันก็พบว่ามีเลือดออกอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์กว่าๆ ดิฉันจึงกลับไปพบคุณหมอท่านเดิม คุณหมอจึงจ่ายยาคุม Meliane มาให้ทาน 1 แผง (21 เม็ด) เมื่อทานได้ไม่กี่วันเลือดที่ออกก็หยุด หลังจากยากล่องแรกหมด ทางคุณหมอก็คงจ่ายยา Meliane ต่อให้ทานอีก 4 กล่อง โดยบอกว่าให้ทานทุกวันไม่หยุดยาเลย ซึ่งทางคุณหมอแจ้งว่าจะทำให้ไม่มีประจำเดือนเลยในระหว่างทีทานยา แต่เมื่อดิฉันเริ่มทานยากล่องที่ 2 ปรากฏว่าเม็ดที่ 19 ดิฉันลืมทาน (ปกติทานตอน 4 ทุ่ม แต่วันนั้นลืมทาน มานึกได้ตอน 8 โมงเช้าอีกวัน จึงรีบทานทันที) แต่ปรากฎว่าดิฉันมีเลือดออก ในวันถัดมา จนปัจจุบันนี้ออกมาแบบเยอะบ้างน้อยบ้างอยู่ 2 อาทิตย์ แต่ก็ไม่ได้หมดเลยเสียทีเดียวนะคะ แบบว่าหายไป 2 วัน วันที่ 3 ก็มีเลือดออกอีก เป็นอย่างนี้ประมาณ 3 อาทิตย์ ซึ่งระหว่างที่มีเลือดออกดิฉันก็ยังคงทานยาต่อจนกระทั่งกล่องที่ 3 ดิฉันก็ลืมกินยาอีกซึ่งเป็นเม็ดที่ 19 อีกเช่นเคยค่ะ คราวนี้วันที่ลืมกินยาวันนั้น เลือดออกมาค่อนข้างมากคล้ายประจำเดือนเลย ดิฉันจึงอยากทราบว่า อย่างนี้ผิดปกติไหมคะ ดิฉันควรทานยา Melliane ต่อไปจนครบ 4 กล่องตามที่คุณหมอให้ยามาหรือควรเปลี่ยนยา หรือควรงดททานยา 

      เพราะดิฉันกลับไปพบคุณหมอแล้วคุณหมอบอกเป็นเรื่องปกติที่พบได้ แต่ดิฉันกังวลค่ะเนื่องจากปริมาณเลือดที่ออกเยอะมาก ไม่ใช่กระปริดกระปรอยตามที่คุณหมอหรือในคู่มือบอกน่ะค่ะ

อายุ: 44 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.96 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

11 พฤษภาคม 2558 13:58:38 #2

โดยปกติถุงน้ารังไข่ที่มีขนาดเกิน 5 เซนติเมตร มักจะไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แต่ถ้าคุณอยากจะลองดูการทานฮอร์โมนก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งมีทั้งการรักษาโดยยาฉีดคุมกำเนิดและยาคุมกำเนิดฮอร์โมนรวมทานชนิดแผง การรักษาโดยการฉีดยาจะทำให้เกิดอาการข้างเคียงคือเลือดออกผิดปกติได้ น้ำหนักตัวอาจจะขึ้นได้ และอาจจะมีอาการปวดศีรษะจากยาฉีดเพราะทำให้น้ำในร่างกายมีปริมาณมากขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถทนอาการข้างเคียงของยาฉีดได้ก็จำเป็นต้องใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด แต่ยาเม็ดคุมกำเนิดจะมีทั้งชนิดฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงและต่ำ ถ้าสูงก็จะมีเอสโตรเจนขนาด 30-35 ไมโครกรัม ซึ่งจะทำให้เกิดอาการข้างเคียงคือคลื่นไส้อาเจียนได้มาก แต่ถ้าเป็นฮอร์โมนต่ำซึ่งจะมีขนาดเอสโตรเจนประมาณ 15-20 ไมโครกรัม ซึ่งยาที่คุณทานคือ มิลลิแอน จะมีเอสโตรเจนขนาด 20 ไมโครกรัม มักจะไม่มีอาการข้างเคียงดังกล่าว แต่อาจจะทำให้เกิดอาการเลือดออกผิดปกติกระปริบกระปรอยได้ การลืมทานยาอย่างที่คุณลืมก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกผิดปกติกระปริบกระปรอยมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณมีอาการดังกล่าว ดังนั้น เมื่อเกิดอาการข้างเคียงดังกล่าวสามารถรักษาโดยการทานยาคุมเพิ่มเป็น 2 เม็ด จนกว่าเลือดจะหยุด จากนั้นจึงทาน 1 เม็ดตามปกติ ยาจะถูกกินไปมากขึ้นและหมดแผงเร็วขึ้น สามาถรเริ่มแผงใหม่ได้เร็วขึ้น ลองปัรบเปลี่ยนการทานยาตามที่หมอแนะนำก่อนก็ได้ ถ้ายังผิดปกติค่อยกลับไปพบแพทย์ ในกรณีที่ถุงน้ำมีขนาด 6 เซนติเมตรควรเจาะเลือดดูค่าความเป็นมะเร็งรังไข่ เช่น CA125 และ CA 19-9 ด้วย จะได้มั่นใจว่าไม่มีความผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องเนื้อร้าย การดูอัลตราซาวด์ถ้าเป็นถุงน้ำใสแนวโน้มที่จะเป็นเนื้อร้ายจะน้อยลงมาก คุณอายุ 44 ปี การใช้ยาคุมต้องใช้ด้วยความระมัดระวังด้วย เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันจากผลของฮอร์โมนเอสโตรเจนด้วยค่ะ

Anonymous

18 พฤษภาคม 2558 18:53:41 #3

ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะสำหรับคำตอบ ดิฉันขอรียนถามเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ

1. การกินยาเพิ่มจาก 1 เม็ดเป็น 2 เม็ด แล้วถ้ายาหมดก่อนกำหนดที่แพทย์นัดครั้งต่อไป ดิฉันควรซื้อยามาทานเพิ่มจนกว่าจะถึงวันนัดหรือไม่คะ

2. การตรวจเพื่อดูค่าความเป็นมะเร็งรังไข่ เช่น CA125 และ CA 19-9 คือการตรวจเลือดใช่ไหมคะ และต้องไปตรวจที่ไหนคะ  แจ้งทางโรงพยาบาลที่รักษาอยู่ (ปัจจุบันรักษาคลีนิคพิเศษกับ รพ ของรัฐอยู่ค่ะ) หรือควรไปตรวจที่ รพ เอกชนก็ได้คะ และการตรวจควรรีบทำทันทีไหมคะ เพราะตอนที่ดิฉันไปพบคุณหมอเพื่อทานยาดิฉันก็ถามทางคุณหมอเหมือนกันค่ะว่าการที่ให้ดิฉันทานยาอีก 5 กล่องแล้วนัดมาอุลตร้าซาวนด์ ถ้าหากดิฉันเป็นมะเร็งขึ้นมาจะรักษาทันหรือคะ คุณหมอก็ตอบแบบเรียบเฉยว่าไม่เป็นไร และก็ไม่ได้มีการแนะนำเรื่องการคัดกรองมะเร็งใดๆเลยค่ะ

3. ภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่คุณหมอแจ้งว่ามีความเสี่ยงสำหรับหญิงวัย 44 ปี ไม่ทราบว่าอาการบ่งชี้ที่เป็นสัญญาณว่ามีโอกาสเกิดโรคจะเป็นอย่างไรคะ และการที่ทานยาเพิ่มจาก 1 เม็ดเป็น 2 เม็ด จะเพิ่มความเสี่ยงหรือไม่คะ

 

ขอบพระคุณคุณหมอล่วงหน้าค่ะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

20 พฤษภาคม 2558 14:35:57 #4

ในกรณีที่ทานยาเพิ่มเป็น 2 เม็ด และยาหมดก่อนที่แพทย์จะนัดสามารถปรับเปลี่ยนเวลานัดไปพบแพทย์ก่อนได้ หรืออาจจะซื้อฮอร์โมนมาทานแต่ควรเป็นชนิดฮฮร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้น ในกรณีที่คุณมีแพทย์ประจำดูแลอยู่แล้วก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเลือดดูค่าความเป็นมะเร็งรังไข่ได้เลย ไม่จำเป้นต้องทำทันที อาจจะรอครั้งหน้าไปพบแพทย์และรับการตรวจในครั้งนั้นเลยก็ได้ ส่วนอาการบ่งชี้เรื่องลิ่มเลือดอุดตันอาจจะมีอาการชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดศีรษะ เป็นต้น การทานยาเพิ่มเป้น 2 เม็ดในระยะสั้นๆ ไม่ส่งผลเสียแต่อย่างใดค่ะ

Anonymous

6 มิถุนายน 2558 06:33:37 #5

เรียนคุณหมอค่ะ

     หลังจากที่ดิฉันลองทานยาเพิ่มตามที่คุณหมอแนะนำ พบว่าเมื่อทานได้ 5 วันเลือดออกน้อยลงจนเกือบหมด ดิฉันเลยกลับมาทานยาเพียงวันละ 1 เม็ดเหมือนเดิมค่ะ แต่พอหลังจากทานยา 1 เม็ดได้ประมาณ 7 วัน ก็มีเลือดออกมาอีกค่ะ ตอนนี้ออกมาได้ 3 วันแล้วค่ะ มีอาการปวดท้องหน่วงๆเหมือนมีประจำเดือน แต่จำนวนไม่มากเท่าประจำเดือนปกตินะคะ โดยใช้ผ้าอนามัยวันละ 1 แผ่นร่วมกับแผ่นอนามัยน่ะค่ะ ดิฉันจึงอยากทราบว่าอาการอย่างนี้ผิดปกติไหมคะ แล้วดิฉันควรจะทานยาเพิ่มอีก 1 เม็ดเหมือนคราวที่แล้วไหมคะ หรือควรจะเปลี่ยนไปกินยาคุมที่มี Horemone มากกว่าตัวนี้ และอาการเช่นนี้พบได้เป็นปกติในผู้ป่วยทั่วไปหรือไม่คะ

     รบกวนคุณหมอแนะนำวิธีการรักษา หรือถ้าต้องเปลี่ยนชนิดของยาควรใช้ยีห้ออะไรดีคะ ขอบพระคุณมากค่ะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

7 มิถุนายน 2558 08:30:13 #6

ในกรณีที่ทานยา 1 เม็ดแล้วยังมีเลือดออกผิดปกติก็ควรเพิ่มยาเป็น 2 เม็ด จนยาหมดแผงก่อน เมื่อเริ่มยาแผงใหม่ก็ควรเปลี่ยนชนิดยาคุม ไปใช้ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้น ซึ่งสามารถปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาได้ โดยควรมีปริมาณเอสโตรเจน 30-35 ไมโครกรัม จะได้ลดอาการข้างเคียงคือเลือดออกผิดปกติค่ะ

Anonymous

8 มิถุนายน 2558 09:54:51 #7

เรียนคุณหมอค่ะ

   ตอนนี้ยาแผงที่ดิฉันกินอยู่เหลือ 5 เม็ด แต่ดิฉันยังมียา เหลือ อีก 1 แผงเต็มๆ ถ้าดิฉันทาน 2 เม็ด ไปจนหมดแผง กับ 5 เม็ด แล้วจึงเปลี่ยนยาได้ใช่ไหมคะ

   คุณหมอคะ แล้วถ้าเปลี่ยนยาจะเกิดผลข้างเคียงที่คุณหมอเคยบอกคือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว หรือไม่คะ และถ้าปล่อยให้เลือดออกไปอย่างนี้เรื่อยๆ จะมีอันตรายอะไรหรือเปล่าคะ เลือดที่ออกคือเลือดจากเยื่อบุโพรงมดลูก ไม่ใช่เลือดประจำเดือนใช่ไหมคะ ถ้าดิฉันเลิกทานยาคุมไปเลย ประจำเดือนจะมาตามปกติไหมคะ

   ขอขอบพระคุณคุณหมออีกครั้งค่ะ ที่กรุณาตอบคำถามให้ค่ะ

 

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

11 มิถุนายน 2558 11:45:52 #8

คุรสามารถทานยาเดิมจนหมดก่อนได้ เมื่อเริ่มแผงถัดไปก็ทานวันละ 1 เม็ดก่อน ถ้าเลือดออกผิดปกติค่อยทาน 2 เม็ดต่อไปเหมือนเดิม ในกรณีที่เปลี่ยนเป็นยาคุมชนิดฮฮรืโมนสูงอาจจะทำให้มีอาการข้างเคียงคือปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียนได้ ไม่มีอันตราย แต่ที่น่ากลัวคือภาวะลิ่มเลือดอุดตันซึ่งจะพบในสตรีอายุมากเกิน 40 ปี ขึ้นไปและยังใช้ยาเม้โคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนสูงอยู่ ทางที่ดีก็ควรจะหยุดยาดูก่อน ถ้ามีอาการผิดปกติค่อยไปพบแพทย์เพื่อพิจารณาการรักษาโดยการผ่าตัดค่ะ