กระดานสุขภาพ

การติดเชื้อเริมในตัวเอง
Anonymous

6 ตุลาคม 2561 07:26:42 #1

ดิฉันเป็นเริมที่ปากค่ะ เป็นครั้งแรกค่ะ ทายากินยายุค่ะ ฉันสัมพัสเริมที่ปากแร่ว สักพักที่ฉันก่อช่วยตัวเองโดยมือข้างเดียวกันค่ะ การทำแบบนี่จะทำให้เชื่อเริมที่ปากไปติดที่อวัยวะเพศรึป่าวค่ะ ตอนนี่กังวลมากค่ะ กลัวจะเป็นที่อวัยวะเพศอีกค่ะ
อายุ: 26 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 150ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.11 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

6 ตุลาคม 2561 18:35:34 #2

เรียนคุณ08516

ทายากินยายุ คืออะไรคะ

Anonymous

7 ตุลาคม 2561 00:11:35 #3

Acyclovir 800 ทาน 2 วันค่ะ
Anonymous

7 ตุลาคม 2561 00:44:56 #4

ดิฉันอยากทราบแค่ว่า การจับเริมที่ปากแร่วช่วยตนเองโดยที่ไม่ได้ล้างมือจะทำให้เกิดเริมที่ปากรึป่าวค่ะ
Anonymous

7 ตุลาคม 2561 01:16:22 #5

ดิฉันอยากทราบแค่ว่า การจับเริมที่ปากแร่วช่วยตนเองโดยที่ไม่ได้ล้างมือจะทำให้เกิดเริมที่อวัยวะเพศรึป่าวรึป่าวค่ะ
Anonymous

7 ตุลาคม 2561 03:36:33 #6

ตอนนี่ที่ฉันมีอาการปวดหัวค่ะ ทานยาก่อไม่หาย รุ้สึกไม่สบายตัวค่ะ แบบนี่ใช้อาการของเริมที่อวัยวะเพศรึป่าวค่ะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

8 ตุลาคม 2561 06:29:40 #7

โดยปกติแล้วคนที่เป็นเริมที่ปากจะไม่ได้เป็นที่อวัยวะเพศเพราะเป็นเชื้อเริมคนละชนิดหรือคนละกลุ่มกันค่ะ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเชื้อพวกนี้มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่เลวร้ายขึ้นได้ หมายถึงถ้าเคยเป็นเริมที่ปากและมีออรัลเซ็กส์ ก็อาจจะกลายเป็นเริมที่อวัยวะเพศได้เช่นกัน ดังนั้น จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าคุณจะเป็นเริมที่อวัยวะเพศร่วมด้วยหรือไม่ ถ้าที่อวัยวะเพศมีรอยแผลถลอก ฉีกขาด ก็อาจจะทำให้เชื้อเริมที่ปากติดต่อไปที่อวัยวะเพศด้านล่างได้เช่นกันค่ะ ตอนนี้ควรสังเกตอาการไปก่อน เพราะเชื้อเริมที่อวัยวะเพศจะต้องเริ่มด้วยการมีแผลช่วงแรกจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสก่อน เมื่อตุ่มน้ำแตกออกก็จะเห็นรอยโรคมีลักษณะเป็นแผลก้นแผลสกปรกลักษณะคล้ายเป็นหนองอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เมื่อไปสัมผัสถูกหรือโดนน้ำจะมีความเจ็บปวดหรือเจ็บแสบมาก ปัสสาวะก็จะมีอาการแสบเช่นกัน การวินิจฉัยโรคเริมนั้นจะต้องเห็นแผล ถ้าไม่เห็นจะไม่สามารถวินิจฉัยได้ ส่วนอาการปวดศีรษะที่คุณมีอยู่นั้นอาจจะเกิดจากความเครียดหรือการที่คุณเป็นโรคเริมที่บริเวณริมฝีปาก จะทำให้เกิดอาการไข้ไม่สบายเหมือนกับการติดเชื้อไวรัสทั่วไปได้เช่นเดียวกัน ตอนนี้หมอแนะนำว่าคุณควรสังเกตอาการไปก่อนและรับประทานยาอะไซโคเวียให้ครบตามจำนวน ซึ่งอาจจะต้องรับประทานนานประมาณ 5 ถึง 7 วัน ขึ้นไป อาการจึงจะดีขึ้นและควรจะต้องใช้ยาอะไซโคเวียทาที่บริเวณริมฝีปากที่มีแผลร่วมด้วย จะทำให้อาการหายขึ้นได้อย่างรวดเร็ว พยายามออกกำลังกายให้แข็งแรงอยู่เสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำเติมค่ะ หรือป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรค ขอให้คุณหายโดยเร็วนะคะ

Anonymous

8 ตุลาคม 2561 09:45:58 #8

ดิฉันไม่ได้มีออรัสเซ็กแต่อย่างใด ดิฉันสัมพัสเริมที่ปากแร่วมาสัมพัสที่อวัยวะเพศแต่โดยไม่ทันทีค่ะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

9 ตุลาคม 2561 08:37:30 #9

โดยปกติเชื้อเริมที่ปากจะไม่ติดมาทางช่องคลอด แต่ถ้ามีบาดแผลหรือมีรอยถลอกก็อาจจะมีการติดเชื้อได้เช่นกันค่ะ ถ้ามีแผลที่อวัยวะเพศก็ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องต่อไป จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ

Natt*****a

9 ตุลาคม 2561 10:41:30 #10

ถ้ายังไม่ทีตุ่มน้ำหรือแผล หรือไม่มีอาการเจ็บปวด เราสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติรึป่าวค่ะ แฟนเราจะติดเรารึป่าวค่ะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

10 ตุลาคม 2561 07:03:17 #11

คุณสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติค่ะ แฟนคุณไม่ควรมีการติดเชื้อค่ะ