กระดานสุขภาพ

เป็นไข้สุกใสฉีดยาแล้วใกล้หาย ตามด้วยถ่ายเป็นเมือก
Amna*****t

5 กุมภาพันธ์ 2557 03:14:35 #1

เมื่อวันอคารที่ ๒๘ มค สังเกตว่ามีไข้และมีตุ่มจึงไปพบแพทย์ แพทย์ระบุเป็นไข้สุกใสครับ ฉีดยา ๑ เข็ม และให้ทานยาต้านเชื้อชื่อ clinovir 800 Acyclovir เป็นเวลา ๕ วันจากวันไปรักษา ผลปรากฏว่า ตุ่มใสขึ้นน้อยครับ ไข้ไม่มี หลังจากวันนั้น ๑ สัปดาห์ ตุ่มตกสะเก็ดและแห้งหลุดออกมาจำนวนหนึ่ง ครับ แต่ยังไม่หมด ยาดังกล่าวหมดพอดีครับ เมื่อยาหมด อาการเริ่ม มีการขับถ่ายเหลวเป็นน้ำ และก็หายไปอีกหนึ่งวัน มาวันที่ ๔ ก.พ. ยังทานยาลดไข้และยาแก้อักเสบที่คุณหมอให้มาอยู่ครับ กลางคืนวันที่ ๔ ปรากฏมีการถ่ายเป็นเมือกปนกับอุจจาระ อาการอ่อนเพลีย เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว เบื่ออาหาร แต่ตุ่มก็ลดลงนะครับ กลางคืนนอนกระวนกระวายหนาวๆ ร้อนๆ อย่างบอกไม่ถูก เช้ามาถ่ายเป็นเมือกเหลืองๆ คล้ายแป้งมันต้มกับน้ำครับสีปนเหลือง กลิ่นไม่แรง (เมื่อถ่ายลงน้ำในชักโครกสีเหลืองนั้นติดกับชักโครกครับ) อาการอ่อนเพลีย หนาวๆ ร้อนๆ เหมือนเดิมครับ อาหารทานไม่ได้จนวันนี้ครับ  ตุ่มหนองยังไม่หายดีครับ แต่เริ่มแห้งและหลุดไปเรื่อยๆ อยากทราบว่าผมเป็นอะไรครับ และจะหายไหม ควรทำอย่างไรต่อ มีอาการแทรกซ้อนจากไข้สุกใส ที่ชาวบ้านเรียกกันว่าหลบในหรือเปล่าครับ ด้วยความเคารพครับผม... 

อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 130 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 42.45 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Amna*****t

5 กุมภาพันธ์ 2557 03:16:05 #2

อนึ่งผมไม่ได้ทานยาเขียวนะครับ ตามความเชื่อโบราณ ผมกลัวว่าจะออกมากแล้วไม่สามารถไปเรียนได้ครับ

นพ.มงคล อังคศรีทองกุล

ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว

12 กุมภาพันธ์ 2557 08:58:15 #3

ไข้สุกใส เดิมเรียกไข้อีสุกอีใส เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง อาการสำคัญคือ มีไข้ต่ำๆ 1-2 วัน ตามด้วยมีตุ่มใสเล็กๆตามใบหน้า ศีรษะ และลำตัว ใช้เวลา 5-10 วัน ตุ่มจะแห้งและตกสะเก็ดหายไป โดยไม่มีแผลเป็น ติดต่อกันได้ง่าย เป็นแล้วเกิดภูมิต้านทานไม่เป็นซ้ำอีก มักเป็นในเด็กๆ ในเด็กอาการไม่ค่อยรุนแรง ในผู้ใหญ่มีอาการมากกว่า ไข้สูงมากๆได้ ผื่นออกมาก บางครั้งร่วมกับ อาเจียน มีท้องเสียร่วมด้วยได้

กรณีคุณ amnat มีอาการค่อนข้างมาก ตอนเด็กคงไม่เคยเป็นสุกใสมาก่อน ได้ยาต้านเชื้อไวรัสด้วย เรื่องท้องเสีย และตุ่มเมื่อแห้งตกเสก็ด ก็จะหายไปเอง อาจใช้เวลา ถ้าไม่มีการอักเสบเป็นหนอง รอยจากที่ตุ่มที่ขึ้นจะจางหายไปเอง คงไม่เกี่ยวกับหลบในที่คนพูดถึงหรอกครับ ถ้ามีอาการแทรกซ้อนอื่นๆขอให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลคุณอยู่ดีกว่าครับ