กระดานสุขภาพ

โรคอะไร?
Unch*****2

28 กันยายน 2556 01:07:37 #1

มีตุ่มแดงๆคล้ายยุงกัดขึ้นตามแขนและขา แต่ไม่คัน จะคันเปนบางครั้ง อยากทราบว่าเปนโรคอะไรหรอค่ะ

อายุ: 14 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.47 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ผศ.นพ. จรูญ เจตศรีสุภาพ

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อนุสาขากุมารเวชศาสตร์ตจวิทยา

30 กันยายน 2556 03:14:25 #2

ตุ่มยุงกัด เป็นปฏิกิริยาการแพ้สารโปรทีนเป็นเอนไซม์ในน้ำลายยุง เมื่อถูกยุงกัดผ่านผิวหนัง สารเคมีเหล่านี้ทำให้เป็นตุ่มลมพิษขนาดเล็ก มีขนาดประมาณ 1 ซม. ผื่นมีสีแดง เนื่องจากหลอดเลือดฝอยขยายตัว หากปฏิกิริยาแพ้มากจะมีน้ำเหลืองแทรกซึมจากหลอดเลือดฝอย ทำให้เป็นตุ่มนูน และหากปฏิกิริยาแพ้รุนแรงมากขึ้น จะทำให้ผิวหนังบริเวณถูกกัดบวมเป็นตุ่มน้ำ ตำแหน่งที่เป็นมักเป็นตำแหน่งที่ไม่มีเสื้อผ้าคลุม จึงพบตามแขนขาด้านนอก ตามหลังมือ หลังเท้า หรือใบหน้า

ตุ่มยุงกัดมักมีอาการคัน

โดยปกติตุ่มยุงกัด เป็นแต่ละครั้งไม่กี่ชั่วโมง หรืออาจอยู่นานเป็นวัน แล้วค่อยๆยุบไป โดยไม่ทิ้งรอย เว้นแต่บางรายที่มีปฏิกิริยาการอักเสบมาก อาการคันมาก ผู้ถูกกัดเกามาก จนเป็นแผล จึงอาจเหลือผื่นสีน้ำตาลทิ้งไว้หลายๆเดือนๆ ส่วนตุ่มแพ้ก็อาจพบได้ทั่วตัว รวมทั้งภายในร่มผ้า

ตุ่มลมพิษขนาดเล็กอย่างอื่น เช่น การแพ้อาหาร ก็สามารถทำให้ผื่นคล้ายยุงกัดได้ ผื่นมักขึ้นตามใบหน้า รอบตา ริมฝีปาก หรืออาจปวดท้องก็ได้ ตุ่มลมพิษเหตุจากความเครียดก็ทำให้เกิดตุ่มลมพิษขนาดเล็ก เรียกว่าลมพิษโคลิเนอร์จิก

ลมพิษโคลิเนอร์จิก เป็นตุ่มสีแดงขนาดเล็กไม่เกิน 1 ซม. ตรงกลางนูน รอบๆสีแดง แต่ละเม็ด แต่ละตุ่ม ปรากฏเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เพียงครึ่งชั่วโมงก็ยุบได้เอง ไม่อยู่นานแบบลมพิษอย่างอื่น และสามารถขึ้นตามผิวหนังได้ทั้งตัว วัยที่พบบ่อยคือ วัยหนุ่มสาว และเป็นเมื่อมีอารมณ์เครียด

ตุ่มคล้ายยุงกัด ยังอาจเป็นโรคผิวหนังอักเสบเหตุภูมิแพ้ ซึ่งเป็นโรคภูมิแพ้กลุ่มเดียวกับโรคเยื่อจมูกอักเสบเหตุภูมิแพ้ ที่ทำให้คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม และเยื่อตาอักเสบเหตุภูมิแพ้ ผื่นชนิดนี้มีอาการคัน เป็นผื่นสีแดง นูน อาจมีตุ่มน้ำ สะเก็ด เป็นๆหายๆ ยิ่งเป็นนานมากเกามาก ผื่นจะหนามาก ขอบชัด ผื่นมักเป็นตามซอกพับข้อศอก ข้อเข่า และผิวหนังแห้ง

เหตุต่อไป อาจเป็นโรคหลอดเลือดฝอยอักเสบ leukocytoclastic vasculitis ซึ่งตุ่มมีสีแดงเข้ม ถึงสีม่วงคล้ำได้ จะเห็นตามปลายขาเหมือนกัน อาการร่วม อาจพบอาการปวดข้อเท้า ปวดข้อเข่า ปวดท้อง ความดันโลหิตสูง

หรืออาจเป็นตุ่มเหตุแพ้ยาปฏิชีวนะ แพ้ยาต้านการอักเสบ ที่ใช้รักษาข้ออักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ

สาเหตุอื่น คือตุ่มจากการติดเชื้อไวรัส เช่น human parvovirus B19 หรือโรคติดเชื้อ HIV ก็คล้ายกับตุ่มยุงกัดหลายๆเม็ด เรียกว่า Pruritic papular eruption หรือ PPE เป็นสัญญาณของโรคติดเชื้อ HIV

ผื่น PPE จะเป็นเรื้อรัง คัน ผื่นขึ้นได้หลายๆที่ ทั้งแขนด้านนอก ขา ตามลำตัว ผื่นเริ่มจากเป็นตุ่มสีแดง

คุณ unchan2 จะเห็นว่า ตุ่มคล้ายยุงกัดมีสาเหตุได้มากมาย การวินิจฉัยจึงจำเป็นต้องซักประวัติการสัมผัสแมลง ยุง มด เห็บ ตัวหมัด จากประวัติการเดินทาง ประวัติการเลี้ยงสัตว์ในบ้าน รวมถึงสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้เคียง สภาพที่พัก อาการอื่น เช่น ปวดข้อเท้า ปวดข้อเข่า ปวดท้อง ประวัติการปัสสาวะ ประวัติการกินยา โดยเฉพาะยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตรอยด์ กับต้องตรวจร่างกายอย่างละเอียด เช่น วัดความดันโลหิต วัดอุณหภูมิร่างกาย ชั่งน้ำหนัก ตรวจหาแผลในปาก ตรวจตามข้อต่อต่างๆ ตรวจกดหน้าท้อง ตรวจหาดูผื่นตำแหน่งอื่น เช่น ผื่นที่ใบหน้า ผื่นที่ขาอ่อน ผื่นตามลำตัว และอาจต้องตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะด้วย

คุณ unchan2 น่าจะพบแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยที่แน่ชัดครับ