กระดานสุขภาพ
รบกวนสอบถามคะ | |
---|---|
29 มิถุนายน 2556 04:04:49 #1 รบกวนคุณหมอค่ะ พอดีดิฉันมีอาการ ปวดปัสวะบ่อย และมีอาการเหมือนคนเปนโรคกระเพาะปัสวะอักเสบบ่อยร่วมด้วย เริ่มเปนมาตั้งเเต่เดือนกุมภาพันธ์ แล้วก็เปนแบบนี้มาตลอดทุกเดือน เดือนนึงก็เปนสอง สามครั้ง ครั้งนึงก็เปนอาทิตย์ มากน้อยแล้วแต่ ยอมรับว่าชอบกลั้นฉี่ แต่พอเรารู้ว่าเราเริ่มเปนเราก็ค่อยปรับตัว ไม่กลั้นฉี่ ทานน้ำเยอะ แต่ทำไมมันถึงเปนบ่อยเกินไป ไม่หายสักทีคะ อาการคือบางทีเวลาฉี่เราก็รุ้สึกเสียว หรือเจ็บตรงปลายท่อฉี่นะคะ บางทีก็ปวดท้องร่วมด้วย แต่ปวดท้องนี่ไม่บ่อย จะปวดตรงปลายท่อฉี่มากว่าค่ะ ไปหาหมอ ตรวจรักษาแล้วนะคะ ทำเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กด้วย ตรวจดูไตก็ปกติ ตรวจฉี่ก็ไม่มีอะไร แล้วทำไมมันไม่หายค่ะ เปนทุกเดือนน่ารำคาญมากค่ะ รบกวนการใช้ชีวิตจริงๆเวลานั่งรถไปไหนไกลๆนี่ลำบากมากคะ คุณหมอเค้าบอกว่าก็ต้องรักษาตามอาการ ถ้าเปนก็ทานยารักษา มีความรุ้สึกว่า ดื้อยาไปหลายตัวแล้วนะคะนี่ ตอนนี้ซื้อยาทานเองค่ะ สองยี่ห้อนี้ ofoxacin และ ciprocep 500 มีความร้สีกว่าจะดื้อยาอีกหรือป่าว เพราะนี่ก็อาทิตกว่าและไม่หายสักที มันจะเปนรื้อรังหรือป่าวคะเพราะเราเปนทุกเดือนหลายรอบมากคะ กลัวนะคะ รบกวนอาจารย์หมอแนะนำด้วยคะ งงกะตัวเองเหมือนกัน ไม่เคยเปน พอเปนก็เปนถึ่ทุกเดือนเลยคะ และโรคนี้มันเกี่ยวกะการมีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือป่าวค่ะ |
|
อายุ: 29 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.56 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
30 มิถุนายน 2556 15:09:11 #2 ถ้าคุณได้รับการตรวจกับแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะแล้วและตรวจไม่พบความผิดปกติ ควรมารับการตรวจภายในและอัลตราซาวด์เพราะอาจจะมีความผิดปกติของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน เช่น ก้อนเนื้อผิดปกติที่กล้ามเนื้อมดลูก รังไข่ ซึ่งอาจจะไปกดเบียดกรัเพาะปัสสาวะหรือทางเดินอุจจาระทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อย ท้องผูก ถ้าไม่พบความผิดปกติใดๆ ควรพบแพทย์ทางด้านศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะเพื่อการตรวจโดยส่องกล้องที่ท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะอีกครั้งค่ะ ถ้ามีการตีบตันของท่อปัสสาวะอาจจะต้องขยายท่อออกหรือรักษาตามอาการที่เป็นต่อไป |
Kung*****2 |
1 กรกฎาคม 2556 03:52:35 #3 ตรวจภายในกับอุลตร้าซาวก็ทำไปแล้วคะ แต่พบว่าเปนซีด แต่ขนาดยังไม่ใหญ่มากนะคะ ไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวกันหรือป่าว เพราะว่าอาการเหมือนปัสวะอักเสบเร่ิมเป็นมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และก็เปนมาตลอด แล้วที่ตรวจเจอว่าพบซีด ก็ประมาณปลายเดือนมีนาคมค่ะ พอฟังคำตอบคุณหมอกลัวเลยค่ะ ส่องกล้อง กลัวเจ็บ |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
1 กรกฎาคม 2556 09:24:24 #4 ควรปพบแพทย์ทางด้านศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ จากอาการที่บอกมาเป็นซีสต์ขนาดเล็กไม่ควรทำให้เกิดอาการดังกล่าว แพทย์จะใช้วิธีระงับความรู้สึกทำใหุ้คุณไม่รู้สึกเจ็บค่ะ |
Kung*****2 |
1 กรกฎาคม 2556 10:33:26 #5 ขอบคุณคะ |
Kung*****2 |
13 กรกฎาคม 2556 04:53:20 #6 สวัสดีคะคุณหมอ พอดีไปหาและปรึกษาคุณหมอมาแล้ว เกี่ยวกับปัสวะอักเสบ ทาง รพ ให้ยา Amoksiklav 2x มาทาน บวกกับยาแก้ปวดหลายตัว รู้สึกอาการดีขึ้นคะ (ยาแก้ปวดใหทานเฉพาะเวลามีอาการ แต่ Amoksiklav ให้ทานต่ออีกยี่สิบวันคะ)ถ้าหลังยี่สิบวันไปแล้วยังมีอาการ ไม่หาย ก็ต้องส่องกล้องค่ะ แต่มีประเด็นสำคัญคิอ ลองสังเกตุตัวเองมาได้ประมาณห้าวันแล้วคะ ว่าทำไมชอบคอแห้ง กระหายน้ำ และที่สำคัญเหมือนมีแก๊สในทอ้ง ผายลมบ่อยมาก และที่สำคัญ เรื่องกลิ่นคะ เหม็นมาก มันเปนเพราะอะไรค่ะ (เป็นคนขี้โรคคะ เป็นหลายโรค ) กังวลอีกแล้ว ไปลองปรึกษาเภสัชเค้าให้ยาฟ้าทะลายโจนมาทาน บอกแก้ร้อนใน มันเกี่ยวกันไหมคะ (เปนคนติดกาแฟ) ไม่เคยเปนแบบนี้เลยคะพึ่งเคยเปนไอ้อาการผายลมเหม็นมากเนี่ย รบกวนแนะนำด้วยคะ ยิ่งทานผักทานเนื้อสัตว์เข้าไปด้วยเนี่ย จะเป็นลมเลยคะ เวลาถ่ายสังเกตตัวเองว่ากลิ่นไม่รุนแรงเหมือนเราผายลม ปกตินะคะ แล้วเหมือนจะเปนเมือกๆเยอะ คนที่บ้านก็เริ่มจะปวดหัวกับเราแล้วคะ รักษาไม่ถูกเปนโรคนั่นนี่ตลอด ปวดหัวกับตัวเองเหมือนกันคะ |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
14 กรกฎาคม 2556 03:54:24 #7 อาการผายลมบ่อยๆและมีกลิ่นมากแสดงว่าเป้นคนท้องผูก มีกากอาหารค้างอยู่ในระบบทางเดินอาหารเป็นเวลานาน ถ่ายอุจจาระไม่ไหมดหรือไม่ทุกวัน อาหารที่ค้างอยู่มีการสะสมหมักตัวมานาน มีแบคทีเรียปริมาณมาก มาทำให้เกิดการย่อยสลายอาหารจนเกิดก๊าซซัลเฟอร์ ซึ่งเป็นก๊าซไข่เน่า มีกิ่นเหม็น คุณควรพยายามขับถ่ายให้ตรงเวลา ทานอาหารที่มีกาก เช่น ผักสด ผลไม้ ลดเนื้อสัตว์ลง ใช้ยาระบาย บาขับลสช่วยได้บางครั้งถ้าไม่ถ่าย อาการผายลมจะน้อยลงจนหมดไปถ้าไม่มีกากอาหารค้างในลำไส้ค่ะ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ควรพบแพทย์ทางด้านระบบทางเดินอาหารให้คุณหมอช่วยประเมินจะดีที่สุดค่ะ |
Kung*****2 |
15 กรกฎาคม 2556 02:07:14 #8 ขอบคุณค่ะ
|
Kung*****2