สวัสดีครับ

คำถามของคุณน่าสนใจมาก จะเป็นความรู้ให้แก่คนอื่นด้วย
ตามที่เล่ามาว่า 3 เดือนที่ผ่าน คุณพ่อเป็นโรคปริทันตอักเสบ หมอถอนฟันไป2ซี่ไม่ให้ยาอะไรกลับมาเลย พอถึงนัดครั้งใหม่คุณหมอบอกว่าแผลที่ถอนและที่เป็นโรคอยู่ไม่ดีขึ้น คุณหมอก็ไม่ทำไรเลยนัดใหม่ไปอีก2อาทิตย์เพื่อดูอาการใหม่ เช่นเคยกลับมามือเปล่า หมอจะตอบให้เข้าใจเป็นข้อๆดังนี้

1. การให้ยาแก่ผู้ป่วย ขื้นอยู่กับสภาวะผู้ป่วย หมออาจไม่จ่ายยาก็ได้ ถ้าเห็นว่าการถอนฟันนั้นจะไม่ปวดแผลและไม่ติดเชื้อหลังถอนฟัน ส่วนแผลหายช้าไม่เกี่ยวกับการให้ยาครับ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน แผลหายช้า ตามที่เล่ามานานเป็นเดือนแล้ว แผลควรหายสนิทแล้วนะครับ ส่วนบางรายที่มีโรคประจำตัว และเสี่ยงต่อการติดเชื้อไปที่หัวใจ หมอต้องให้ยาป้องกันการติดเชื้อไปถึงหัวใจก่อนทำฟัน หมอต้องรับผิดชอบต่อผู้ป่วยเสมอ
2. การเปลี่ยนหมอเป็นสิทธิของผู้ป่วยที่จะทำได้ คุณต้องขอประวัติการรักษาไปด้วย หรือให้หมอส่งต่อไปหาหมออื่นก็ได้ ในต่างจังหวัดแม้ในอำเภอเล็กๆหมอจะมีการทำงานประสานกัน ถ้าเป็นคลินิกให้ลองคุยกับหมอที่รักษาว่าจะรักษาต่ออย่างไรดี หมออาจส่งต่อหรือแนะนำได้
3. ระยะ2-3เดือนมานี่อยู่ๆคุณพ่อน้ำหนักลงไปเกือบ5กิโล เหมือนคนป่วย อย่างนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องหาสาเหตุ อาจมีโรคประจำตัวที่เพิ่งเป็น คุณควรพาพ่อไปหาหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยว่า อะไรที่ทำให้น้ำหนักลด ที่คุณเล่ามาก็เป็นไปได้ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น เบาหวาน หัวใจ ไต เป็นต้น คุณพ่อดื่มเหล้าทุกวันถ้าเอาอาการต่างๆมารวมกันคุณพ่อมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งที่ช่องปากได้ครับ เรื่องเหล้ากำลังเป็นที่สนใจหาสาเหตุกันอยู่ว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงกับมะเร็งที่ช่องปาก คอ และหลอดอาหาร มะเร็งพบมากในคนที่ดื่มมากๆครับ
4. ส่วนการติดเชื้อในปากรวมถึงคนที่แปรงฟันไม่สะอาด อนามัยในปากไม่ดี จะพบไวรัสชนิดหนื่ง ที่ชื่อว่า HPV (Human Papilloma Virus) ซึ่งเป็นต้นเหตุก่อให้เป็นมะเร็ง แม้ว่าการมีความความเสี่ยงไม่ได้แปลว่าต้องเป็นแน่ๆ แต่ควรหลีกเลี่ยงครับ
5. ควรพูดให้คุณพ่อเข้าใจว่าหนูเป็นห่วงท่านมาก การเจ็บป่วยหากปล่อยให้เรื้อรังอาจทำให้รักษายากหรือไม่หาย จะลำบากทั้งคนป่วยและลูกก็เป็นทุกข์ จึงขอให้เห็นแก่ลูกด้วย

ขอบคุณมากนะค่ะ