กระดานสุขภาพ

ปรึกษาคุณหมอครับ
Mata*****t

24 เมษายน 2556 13:01:49 #1

ผมมีอาการเหล่านี้มา ได้ 3 อาทิตย์แล้วครับ

ขอแยกคำถามเป็นสองโรคน่ะครับ

โรคแรกคือ กรดไหลย้อน

อาการคือ หลังทานอาหารจะ รู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก แขนขา หมดเรี่ยวแรง เหมือนเป็นไข้ อ่อนๆ กลืนน้ำลายยาก แสบคอ

นี่เป็นอาการสัปดาห์แรกครับ หลังจากนั้นผมไปซื้อยามาทาน มี omeprazole domperidone sem ithicone แล้วก็ยาน้ำ belcid สองอาทิตนี้มา กินอาหาร น้อยๆ วันละ 4 มื้อ กินก่อนนอน 3 ชั่วโมง อาการเหมือนจะดีขึ้นมากครับ

แต่ก็ยังมีอการอ่อนๆ ตื่นตอนเช้ายังแสบคอนิดหน่อย ไม่ถึงกับ ไอมาก แค่ กระแอม แต่ก็เจ็บคอ เปรี้ยวปาก กลืนไม่ลงบ้างบางครั้งแต่ไม่บ่อยแล้วครับ

แต่มีอาการแปลกๆ ปรากฏมา คือ ลิ้นของผม เป็น ลักษณะ ฝ้ายาวขางขวาของลิ้น ช่วงแรกจะเป็นสีขาว แต่ไม่ถึงกับขาวมากครับ แค่ ออกโทนขาว นิดหน่อย พอแยกแยะออกจากลิ้นอีกฝั่ง มันเริ่มจาก นิดหน่อย จนตอนนี้ลามไป พอสมควรครับ ที่ด้านขวาของลิ้น แล้วสีเริ่มกลับไปเหมือนลิ้นปกติแล้วครับแล้วครับ ไม่มีอาการเจ็บ หรืออาการ อะไร แต่รู้สึกว่าบางครั้ง จะ รู้สึกขมๆนิดๆ ไม่แสบอะไรเลย ถามอาที่เป็นพยาบาล เขาบอกว่า อาจจะเป็นร้อนใน

คำถาม 1 

อยากถามว่า อาการ แบบนี้ เป็นร้อนในได้หรือป่าวครับ หรือเกิดจากกรดที่ไหนย้อนขึ้นจากท้อง ขึ้นมาเลยทำให้เป็นแบบนี้ครับ เพราะตอนนี้อาการกรดไหลย้อน เริ่มดี ขึ้น สีของลิ้นก็เริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่ยังเห็นเป็ยรอย ใหญ่ๆอยู่ครับ เท่าที่หาอ่านตามอินเตอเน็ต อาการร้อนใน จะมีอาการเจ็บแสบปนด้วย แต่ของผมไม่มีอาการเจ็บอะไรเลยครับ นอกจาก เปรี้ยวปาก แสบคอ อันน่าจะเกิดจากกรดไหลย้อนครับ แล้วก็มีอาการ ตาแห้งและคันตา นิดหน่อยด้วยครับ ผมไม่แน่ใจว่า เกิดจากการแพ้ยา หรือไม่ครับ

 

http://haamor.com/media/images/webboardpics/matazs.jaturabandit-4806.jpg

รูปลิ้นผมครับถ่ายเมื่อวาน

คำถามที่ 2

ยาที่บอกไปตอนต้น ถ้าทานหมดแล้วอาการไม่แสดงออกมาก ผมต้องไปหาหมอเพื่อรับยาเพิ่มไหมครับ พอดีคุณหมอไม่ได้บอกไว้ว่าหมดแล้วให้มารับเพิ่ม เพราะทานยามา 2 อาทิต ใกล้จะหมดแล้วครับ

 

 

โรคที่ 2 เรื่องHIV

คือผมไปมีความเสี่ยงจะได้รับ เชื้อ HIV มา 2 ครั้งครับ คือ ประมาณช่วงเดือน ต้นเดือนมกราคม และ เมื่อ ประมาณ ปลายเดือนมีนาคมครับครั้งที่ 1 ผมใส่ถุงทุกอย่าง ไม่มี อะไร อื่น ปกติครับ

ครั้งที่ 2 ผมใส่ถุงปกติ แต่ ผมเผลอไป ใช้ปาก เลีย อวัยวะเพศ ญ เข้า โดยที่คิดว่าไม่น่าจะมีแผลในปาก แต่เพิ่งนึกได้ว่า ผมมีฟัน1ซี่ แตก แต่แตกมานานเป็นปีแล้วครับ คิดว่าไม่น่าจะมีแผลอะไร

 

ผมไปตรวจ เลือดมา สองครั้งครับ

ครั้งแรกตอน 6 เมษา 2556

ครั้งที่ 2 ตอน 19 เมษา 2556

ผลปรากฏว่า ปกติ ทั้งสองอย่างครับ

วิธีตรวจ เหมือนเขาจะเจาะเลือดไปแล้วไปหยดลงบนแผ่นเทศ ครับ แล้ว รอว่ามีเส้นขึ้นมาไหม ปรากฏว่าไม่มีครับ

หมอสรุปว่าปกติดีครับ

คือ นน. ผมลดลงจาก 93 มาเหลือ 87 ภายใน สามอาทิตย์ครับ เวลาผมไปออกกำลัังกายโดยเล่นบาส ก็จะรู้สึกเหนื่อยเร็วกว่าปกติ ผมคิดว่าเป็นอาการจากกรดไหลย้อนที่ยังไม่หายดี ใช่ไหมครับ

ส่วนหนึ่งที่ นน. ลงเร็วน่าจะมาจากช่วงอาทิตย์แรกๆ ผมทานแต่ข้าวต้มอย่างเดียวเลยครับ ไม่ค่อยทานอย่างอื่นเลยครับ

คำถามที่ 1

อยากถามว่า การเริ่มนับเดือน เพื่อไปตรวจเลือดครั้งแรก หลัง 3 เดือนนี้ นับจากครั้งแรกที่เสี่ยง หรือ นับจากครั้งล่าสุดครับ

คำถามที่ 2

ครั้งที่ 2 ของ ผม มีโอกาสติดเชื้อได้ไหมครับ

คำถามที่ 3

อยากถามว่า อันนี้ผมควรสรุปได้เลยไหมครับว่าผม ไม่มีเชื้อ เพราะคุณหมอนัดให้ตรวจอีกครั้ง คือ 2 เดือน ครับ

คำถามที่ 4

ถ้ารับเชื้อมาไม่เกิน 3 เดือนแบบนี้ จะมีอาการแบบนี้ แสดงให้เห็นได้ไหมครับ แล้วทำไมแผ่นตรวจสองครั้งถึงไม่เจอครับ

 

 

ขอบคุณคุณหมอที่ ติดตามอ่านและวิเคราะผลให้ครับ

ขอบคุณมากครับ เครียดเรื่อง HIV ที่สุดแล้วครับ

อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 87 กก. ส่วนสูง: 167ซม. ดัชนีมวลกาย : 31.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

25 เมษายน 2556 04:30:58 #2

คำถามที่ 2

ขอตอบรวมๆดังนั้ครับ การทำออรัลเซ็กส์มีโอกาสติดเชื้อเอดส์ได้เหมือนกัน มีการศึกษาโอกาสของการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ 1ครั้ง จากมากไปน้อยดังนี้

  1. ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางทวารหนัก 0.5%
  2. หญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางช่องคลอด 0.1%
  3. ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ทางทวารหนัก 0.065%
  4. ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ช่องคลอด 0.05%
  5. ชายหรือหญิงเป็ยฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์ 0.01%
  6. ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ 0.005%

สรุปว่าการทำออรัลเซ็กส์รวมทั้งการจูปแบบดูดดื่มมีโอกาสติดเชื้อน้อยเพียง 0.005% แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นกามโรคหรือเป็นแผล มีเลื้อดออกในปาก โอกาสที่จะติดเชื้อจะสูงขึ้น อย่าลืมนะครับ ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งออรัลเซ็กส์ จะป้องกันกามโรคและโรคเอดส์ได้

ส่วนเรื่องนับระยะเวลา 3 เดือนเริ่มนับตั้งแต่ที่มีความเสี่ยงครั้งสุดท้าย ในกรณีของคุณมีความเสี่ยงปลายเดือนมีนาคม คงต้องตรวจอีกครั้งปลายเดือนมิถุนายน สำหรับการติดเชื้อเอดส์ในระยะแรกคือ 1-2 อาทิตย์หลังจากรับเชื้อจะมีอาการไข้สูง ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่น ส่วนเรื่องนำหนักลดร่วมกับอาการท้องเสียเรื้อรัง มักจะพบหลังติดเชื้อ 3 ปีขึ้นไปครับ

 

นพ. อนุพงศ์

พ.อ.นพ.ณฐพล จันทรอัมพร

(แพทย์ หู คอ จมูก)

26 เมษายน 2556 03:28:51 #3

คำถามที่ 1

โรคกรดไหลย้อน รับประทานยาต่อเนื่องสามเดือนครับ จะมีอาการแสบในอกเจ็บคอระคายคอ ไอเรอเปรี้ยว ฯลฯ ครับ

ตามรูปลิ้นที่ถ่ายมาให้ดู ทางแพทย์เรียกว่า"geographic tongue" (ลิ้นแผนที่) ครับ รอยด่างจะเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ เป็นอาการแสดงของโรคภูมิแพ้ครับ จะมีอาการแสบตา คันตาคันจมูก ระคายคอไอ ต้องกระแอมบ่อยๆร่วมด้วยครับ

Mata*****t

26 เมษายน 2556 11:21:06 #4

มีอาการตามที่คุณหมอบอกเลยครับ เป็นภูมิแพ้อะไรหรอครับ. 

 

แล้วมานค่อยหายไปแบบนี้แสดงว่า หายแล้วใช่ไหมครับ

พ.อ.นพ.ณฐพล จันทรอัมพร

(แพทย์ หู คอ จมูก)

26 เมษายน 2556 17:10:39 #5

แพทย์จะทราบแต่ว่าเป็นโรคภูมิแพ้ครับ ส่วนจะแพ้อะไรผู้ป่วยต้องสังเกตุดูเอาเองครับ ถ้ายังหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ไม่ได้ไปโดนอีกก็จะเป็นได้อีกครับ โรคนี้รักษาตามอาการครับถ้าไม่ถูกสิ่งที่แพ้ก็ไม่มีอาการไม่ต้องรักษาครับ