กระดานสุขภาพ

โรคงูสวัดติดต่อคนอื่นไหมคะ อย่างไร
Khau*****n

12 มีนาคม 2562 15:01:40 #1

โรคงูสวัดถ้าเป็นตุ่มน้ำใสๆ ยังไม่แตกเป็นแผลจะติดต่อคนอื่นได้ไหมคะ ถ้าติดต่อจะติดต่อทางไหนอย่างไรคะ

อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 46 กก. ส่วนสูง: 161ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.75 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
พญ.กิติพร กวียานนท์

แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว/เวชศาสตร์ทั่วไป

18 มีนาคม 2562 15:55:54 #2

  • โรคงูสวัด(Herpes zoster หรือ Shingles หรือบางคนเรียกสั้นๆว่า Zoster) คือ โรคผื่น/ตุ่มน้ำใส ที่มักเกิดรวมเป็นกระจุกตามแนวยาวของเส้นประสาท เจ็บมาก ที่เกิดตามผิวหนังตำแหน่งใดก็ได้ทั่วตัว แต่มักเกิดที่ลำตัว บริเวณเอว และที่สะโพก/แก้มก้น โดยเกิดจากร่างกายติดเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับไวรัสที่เป็นสาเหตุโรคอีสุกอีใส ได้แก่ ‘วาริเซลลา ซอสเตอร์ ไวรัส (Varicella zoster virus หรือ เรียกย่อว่า VZV/วีซีวี ไวรัส)’
  • ทั้งนี้ เมื่อโรคอีสุกอีใสหายแล้ว จะยังคงมีเชื้อไวรัสนี้หลงเหลือซุกซ่อนอยู่ในปมประสาทต่างๆ โดยเฉพาะของลำตัว รอเวลาที่ร่างกายอ่อนแอ มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคลดลง เช่น ผู้สูงอายุ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือ มีโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง หรือ กินยากดภูมิคุ้มกัน เช่น ในการปลูกถ่ายอวัยวะ เชื้อไวรัสที่หลบอยู่นี้จึงเจริญเติบโตและก่อให้เกิดโรคงูสวัดได้
  • โรคงูสวัด เป็นโรคพบบ่อยโรคหนึ่ง พบได้ในทุกอายุ ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ มักพบในคนที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใส (Chickenpox)มาก่อน และหลังจากโรคอีสุกอีใสหายแล้วนานเป็น เดือน ปี หลายปี หรือเป็น 10 ปี จึงเกิดโรคงูสวัดตามมาเมื่อมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายอ่อนแอลง เช่น เมื่อสูงอายุ มีความเครียด หรือเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง
  • ผู้มีปัจจัยเสี่ยงเกิดงูสวัด ได้แก่
  • ผู้สูงอายุ จากมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ และมักมีโรคประจำตัว
  • ผู้มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคผิดปกติ เช่น โรคติดเชื้อเอชไอวี โรคออโตอิมมูน
  • ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคออโตอิมมูน โรคปอด(เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง) โรคมะเร็ง
  • ใช้ยาสเตียรอยด์ต่อเนื่อง เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหืด
  • ผู้ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เช่น ปลูกถ่ายอวัยวะ
  • ได้รับยาเคมีบำบัด เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง
  • แต่ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่แน่ชัดว่า โรคนี้เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ทั้งกับชนิดถ่ายทอดได้ หรือกับ ชนิดไม่ถ่ายทอด
  • อาการของโรคงูสวัด ได้แก่
  • มีอาการคล้ายไข้หวัด/ โรคหวัด นำก่อน ประมาณ 2-3 วัน เช่น
  • มีไข้(มีได้ทั้งไข้สูง หรือ ไข้ต่ำ) หรือ ไม่มีไข้
  • อาจปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว ปวดท้อง อ่อนเพลีย ตากลัวแสง และ
  • มักเจ็บในบริเวณติดเชื้อมาก(ยังไม่มีผื่นขึ้น) หลังจากนั้น 2-3วัน จึงขึ้นผื่น
  • ผื่นจะมีลักษณะ เป็นผื่นแดง คัน เป็นทางยาว และไม่กว้างมากนัก มักเป็นทางยาวตามแนวเส้นประสาทของร่างกาย โดยมักเริ่มในแนวใกล้ๆกลางลำตัวตามแนวปมประสาท เช่น ตามประสาทของ ลำตัว แขน ขา ตา และหู และมักเกิดเพียงด้านเดียว โดยทั่วไปมักพบที่ลำตัวบ่อยที่สุด
  • ผู้ป่วยจะมีอาการ คันในบริเวณขึ้นผื่น เจ็บปวดมาก อาจร่วมกับปวดแสบปวดร้อน บางคนร่วมกับอาการชาในบริเวณนั้นๆ
  • อาการปวดมักนำมาก่อนเกิดผื่นแดง และเมื่อเกิดผื่นแล้ว อาการปวดก็ยังคงอยู่ และบ่อยครั้ง เมื่อโรค และผื่นหายแล้ว ก็ยังปวดได้ต่อเนื่อง อาจเป็นปีๆ แต่อาจปวดมาก หรือ น้อยไม่เท่ากันในทุกราย ซึ่งอาการปวดในบางราย(ทั้งระหว่างเกิดโรค หรือ ภายหลังโรคหายแล้ว) อาจปวดมากจนต้องรักษาอาการปวดด้วย ยาแก้ปวดในกลุ่มยาเสพติด หรือ ใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือ ฉีดยาชาเข้าเส้นประสาท
  • ทั้งนี้มีการศึกษา พบอาการปวดเส้นประสาทตามตำแหน่งรอยโรคหลังโรคนี้หาย
  • หลังเกิดผื่นได้ประมาณ 1-2 วัน ผื่นจะกลายเป็นตุ่มพอง/ตุ่มน้ำใส ตุ่มพองมักเกิดใหม่ตลอดระยะเวลา 2-3 วัน โดยมีน้ำใสๆในตุ่ม แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นตุ่มสีเหลือง อาจเป็นน้ำเลือด ในที่สุด จะตกสะเก็ดเป็นสีดำ และสะเก็ดค่อยๆหลุดจางหายไปภายใน 2-3 สัปดาห์ อาจหายโดยไม่มีแผลเป็น หรือ เป็นแผลเป็นเมื่อตุ่มพองเกิดติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย
  • อย่างไรก็ตาม มีบางคนแต่พบได้น้อยมาก มีอาการทุกอย่างดังกล่าว ยกเว้นไม่มีผื่นขึ้น(โรคงูสวัดชนิดไม่มีผื่น/Zoster without herpes) ซึ่งเป็นโรคที่วินิจฉัยได้ยากมาก
  • โรคงูสวัด เป็นโรคติดต่อได้จากการสัมผัส ผื่น หรือ ตุ่มพองของโรค โดยผู้สัมผัส ไม่เกิดเป็นงูสวัด แต่จะเกิดเป็นโรคอีสุกอีใส เมื่อไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน หรือ ไม่เคยฉีด วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส หรือ บางครั้งแม้เคยฉีดวัคซีนนี้มาแล้วก็ตาม(พบได้น้อย)
  • การรักษาโรคงูสวัด คือ
  • การใช้ยาต้านไวรัส (เช่นยา Acyclovir) ซึ่งจะได้ผลดี ลดความรุนแรงของอาการ และช่วยให้โรคหายเร็วขึ้นเมื่อได้รับยาภายใน 3 วันหลังเกิดผื่น ที่มีทั้ง ยาทา ยากิน และ ยาฉีด ทั้งนี้ขึ้นกับความรุนแรงของโรค
  • นอกจากนั้น คือ การรักษาประคับประคองตามอาการ โดยเฉพาะ
  • ยาแก้ปวด และ
  • ยาบรรเทาอาการคัน/ยาแก้คัน