กระดานสุขภาพ

มีอาการคันและเป็นตุ่ม และ มีเหมือนเนื้องอกไม่มีอาการคัน เครียดมากผมเป็นโรคอะไรครับหมอ
Kais*****w

22 มกราคม 2562 14:17:06 #1

ผมเป็นโรคอะไรครับ มีอาการคันและเป็นตุ่ม และ มีเหมือนเนื้องอกไม่มีอาการคันและ แต่จะคันแค่ที่ตรงเป็นตุ่มบวมเวลาคันจะเป็นตอนที่เวลาอับชื่น หรือตอนเหงืออกเยอะๆๆ ก้ได้ทายาเชื่อลาอาการคันดีขึ้นแต่ ไม่หายไปพอเริ่มชื่นหรือกลับมาจากที่ทำงานไม่รีบอาบน้ำก็จะมีอาการคัน ตุ่มก็จะกลับมาขึ้น

1.อยากถามหมอว่าตุ่มขัน ผมเป็นโรคอะไรครับ

2.ที่เป็นเหมือนเนื้องอกผมเป็นโรคอะไรหราครับ

3.ผมเป็นเอดหรือป่าว....แต่ไม่เคยมีอาการของต่อมน้ำเหลืองโตเลยนะครับ

เครียดมากช่วยตอบหน่อยนะครับ

มีอะไรกับแฟนคนเดียว แต่แฟนเคยทำงานกลางคืนมาก่อนแต่เคาเลิกแล้วนะครับ อยู่กันมาเกือบ2ปีละ ผมพึงจะมีอาการ เมื่อเดือนก่อน หรือเพราะใช้ห้องน้ำร่วมกับคนอื่นมีส่วนไหมเพราะ ห้องน้ำที่ทำงานไม่สอาดมีคนงานเยอะ...

อายุ: 28 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 95 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 32.87 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Kais*****w

22 มกราคม 2562 14:22:43 #2

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

23 มกราคม 2562 06:21:35 #3

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็น 1. ตุ่มเล็กๆเป็นติ่งเนื้อหลายแห่ง ลักษณะคือหูดหงอนไก่ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ที่พบได้บ่อยขึ้น เกิดจากเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) การรักษาคือใช้ยา podophyllin หรือ trichloracetic acid จึ้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ประมาณ 4-6 อาทิตย์ จี้หรือใช้ไฟฟ้า หรือเลเซอร์ ซึ่งจะฉีดยาชาเพื่อไม่ให้เจ็บเวลาจี้ 2. ตุ่มที่บวมที่บริเวณอวัยวะเพศอาจจะเป็น 2.1. การอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคล้ายกับการเกิดสิว ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอนประมาณ 2 อาทิตย์ 2.2. ซีสต์หรือถุงน้ำหรือถุงไขมันใต้ผิวหนัง ถ้าไม่เจ็บ ไม่มีเลือดออกหรือไม่มีการอักเสบ ก็ไม่ต้องทำอะไร อาจจะยุบเองได้ แต่ถ้าใหญ่ขึ้น เจ็บ อักเสบ อาจจะต้องเลาะออก 3. อาการคันตามหนังหุ้มอวัยวะเพศน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยาต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและค่อนข้างแห้ง และอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน 4. สำหรับเรื่องการติดเชื้อเอดส์นั้น ส่วนใหญ่มักจะติดเชื้อโดยที่มีอาการไม่เด่นชัด ถ้าคุณหรือแฟนเคยมีความเสี่ยงมาก่อน ก็ควรจะตรวจเลือด แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจ โดยสรุป ตุ่มเล็กๆที่เห็นเป็นหูดหงอนไก่ แนะนำหาหมอเพื่อรักษาและให้รักษาแฟนด้วย สำหรับเรื่องเอดส์ ควรจะตรวจเลือดทั้งคู่ครับ

Kais*****w

23 มกราคม 2562 11:21:27 #4

ใช่อาการเเริ่มแรกของโรคเอดหรือป่าวครับ แต่นี้อยู่มาเกือบ2ปีแล้ว แฟนเลิทำงานมาได้2ปีแล้ว ผมก็ไม่เคยมีอาการของต่อมน้ำเหลืองโต เลยนะครับ

Kais*****w

23 มกราคม 2562 11:24:12 #5

แล้วงอนไก่อันตรายไหม ถ้าทายาเอาอย่างเดียวจะเป็นอะไรหรือป่าว

ส่วนตุ่มขัน ก็ยุบลงแล้ว เวลาที่กางเกงใส่ซ้ๆหรืออับชื้นถึงะกับมาขันและขึ้นตุ่มอีก 

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

24 มกราคม 2562 05:37:26 #6

อาการของการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ คือ 1. เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น 2 ระยะที่ไม่มีอาการ คือ อาการต่างๆก็จะหายไป ไม่แสดงอาการใดๆ แต่ผลเลือดเป็นบวก 3. จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง ในกรณีของคุณแนะนำตรวจเลือดทั้วคู่ แม้ว่าอาการจะไม่ใช่อาการของเอดส์ก็ตาม สำหรับหูดหงอนไก่ ถ้าไม่รักษาจะมีขนาดใหญ่ขึ้นและอาจจะเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงได้ ส่วนอาการคันน่าจะเป็นโรคผิวหนังและเชื้อรา โดยสรุป แนะนำหาหมอ ใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคมได้ครับ