กระดานสุขภาพ

เป็นแผลที่บริเวณรอบทวารหนัก
Nus*****s

18 ตุลาคม 2561 12:03:05 #1

เป็นแผลเปลื่อยบริเวณรอบๆทวารหลังและคัน เป็นมาประมาณเดือน1แล้วคลับ อยากทราบมันเป็นอะไรครับ และรักษาอย่างไร
อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 171ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.81 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

19 ตุลาคม 2561 05:59:22 #2

  • แผลที่รอบทวารหนัก ถ้าคุณมีความเสี่ยงคือเป็นเกย์หรือชายรักชายที่มีการร่วมเพศสอดใส่ทางทวารหนัก ก็อาจจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สาเหตุ 1. โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น
  • มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำ
  • ครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง
  • 2. แผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์) แต่ถ้าคุณไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็อาจจะเกิดจากอาการเริ่มต้นของริดสีดวงหรือแผลที่เกิดจากการบาดของอุจจาระที่แข็งเวลาท้องผูกหรือเปื่อยจากอาการท้องเสีย สาเหตุของริดสีดวงทวาร มีหลายอย่าง เช่น ลักษณะนิสัยการถ่ายผิดปกติ (ท้องผูก หรือ ท้องเสีย) ออกกำลังกายน้อย รับประทานอาหารที่มีเส้นใยเช่นผักผลไม้น้อย เบ่งอุจจาระนาน อ้วน และนั่งเป็นเวลานานๆ
  • ถ้าเป็นมากขึ้น เส้นเลือดจะโป่งออก และโผล่ออกมาอยู่ด้านนอกได้ ถ้ามีการรักษาที่ถุกต้อง ตั้งแต่เรื่องสุขอนามัย การกินอาหารประเภทผัก ผลไม้ ดื่มน้ำมากๆ ปรับเรื่องการขับถ่ายซึ่งการฝึกต้องทำบ่อยๆจนเกิดความเคยชิน หรืออาจรักษาด้วยการฉีดยาให้ยุบ การผูกเส้นเลือด การจี้ด้วยเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรง ถ้ารักษาแล้วก็จะไม่เห็นจากภายนอก โดยสรุป ขึ้นกับลักษณะของแผลที่เป็นร่วมกับพฤติกรรมทางเพศ แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นและให้ข้อมูลทางเพศสัมพันธ์เพิ่มเติมด้วยครับ
Nus*****s

20 ตุลาคม 2561 15:39:57 #3

มีรุปมาประกอบครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Nus-46213.jpg

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

22 ตุลาคม 2561 09:23:20 #4

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นผื่นนูนที่บริเวณทวารหนัก มีน้ำเหลืองเยิ้ม ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชายคือเป็นเกย์ มีพฤติกรรมร่วมเพศทางทวารหนักกับชายด้วยกัน ผื่นนูนที่เห็นน่าจะเป็นซิฟิลิสระยะที่สอง อธิบายเพิ่มเติมว่า ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป แบ่งเป็น 1.แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 เป็นแผล ขอบแข็ง ไม่เจ็บ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัวไม่คัน ผมร่วง หรือมีผื่นนูนราบที่บริเวณที่ชื้นๆ เช่น รอบทวารหนัก เป็นต้น รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 3.ระยะแฝง ไม่มีอาการ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต 3 ครั้งติดต่อกัน (อาทิตย์ละ 1 เข็ม) โดวสรุป ถ้าเป็นเกย์ น่าจะเป็นซิฟิลิสระยะที่สอง แนะนำหาหมอด่วน สามารถตรวจเลือดยืนยันว่าเป็นซิฟิลิสหรือไม่ และควรจะตรวจเลือดเอดส์ด้วย เพราะมีการศึกษาพบว่าเกย์มีอัตราการติดเชื้อสูงกว่าชายทั่วไปหลายเท่า สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ