กระดานสุขภาพ

กินยาคุมแล้วประจำเดือนไม่มา
Look*****w

9 พฤษภาคม 2561 17:42:10 #1

กินยาคุมแล้วประจำเดือนไม่มา มีอาการปวดหลังมากเหมือนประจำเดือนจะมา แต่ไม่มา พอเริ่มกินยาคุมแผงถัดไป อาการปวดหลังหายไป แต่สิวผุดขึ้นเยอะมาก เหมือนสิวฮอร์โมนค่ะ มีวิธีแก้ยังไงค่ะ หรือต้องเลิกกินยาคุม
อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 49 กก. ส่วนสูง: 153ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.93 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

10 พฤษภาคม 2561 07:30:54 #2

ถ้าคุณทานยาคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี ทานทุกวันในเวลาเดียวกันบวกลบไม่เกิน 1 ชั่วโมง และไม่เคยลืมทานยาเลย ยาก็จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ การที่ทานยาคุมชนิด 21 เม็ด คุณจะต้องเว้น 7 วันและค่อยเริ่มแผงใหม่ ช่วงที่เว้นยา 7 วันจะเป็นช่วงที่มีประจำเดือนมา แต่ถ้าทานชนิด 28 เม็ด ประจําเดือนจะมาในช่วงที่ทานยา 7 เม็ดหลัง ในกรณีที่ทานยาคุมตามที่แนะนำแล้วถูกต้องทุกอย่างแต่ประจำเดือนไม่มา อาจจะมีสาเหตุมาจากการทานยาคุมเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความบางตัวลงมากจนไม่มีประจำเดือนมาได้ ถ้ามั่นใจว่าไม่ลืมทานยาและไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน ก็ทานยาคุมอย่างต่อเนื่องไปได้เลยค่ะ ถ้าทานเป็น 21 เม็ดพอเว้น 7 วันก็เริ่มทานยาแผงใหม่ในวันที่ 8 ได้เลย แต่ถ้าทานเป็นชนิด 28 เม็ด ให้ทานแผงชนแผงต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆ ค่ะแต่ถ้ากังวลเรื่องการตั้งครรภ์ก็ควรทำการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ก่อนจะดีที่สุดค่ะ ถ้าไม่พบการตั้งครรภ์ก็จะได้มั่นใจอย่างแน่นอนว่าไม่มีการตั้งครรภ์ สามารถทานยาคุมต่อเนื่องได้ด้วยเรื่อยๆ ส่วนอาการปวดหลังอาจะเกิดจากกล้ามเนื้อมีการอักเสบ และการมีมีสิวขึ้นอาจจะเป็นผลจากระดับฮอร์โมนในร่างกายที่ผิดปกติไปไม่น่าจะเกี่ยวกับการทานยาคุมกำเนิดค่ะ เพราะยาคุมบางประเภทจะสามารถรักษาสิวได้ด้วย โดยเฉพาะเลือกยาคุมที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนแอนโดรเจนด้วย เป็นต้น ค่ะ
________________________________________