การที่เป็นซึส หรือ ถุงน้ำที่รังไข่นั้น เป็นคำกว้างๆครับ เนื่องจาก ในช่วงครึ่งหลังของรอบประจำเดือน ผู้หญิงทุกคนมีโอกาสเป็นถุงน้ำได้อยู่แล้ว จากเปลือกที่หุ้มไข่ที่ตกไปกลางรอบเดือน (corpus luteal cyst) ซึ่งจะทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนช่วยหากมีการตั้งครรภ์ในระยะ 10 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ หากไม่มีการผสมของไข่กับอสุจิ ถุงน้ำดังกล่าวก็จะฝ่อหายไปใน 2 สัปดาห์ครับ ดังนั้น หมออาจจำเป็นต้องทราบลักษณะของถุงน้ำว่า มีลักษณอย่างไร เหมือนถุงน้ำที่หมอกล่าวไป หรือ เป็นถุงน้ำที่อาจมีผลต่อการมีบุตร คือ ถุงน้ำที่เกิดจากภาวะเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (endometrioma หรือ chocolate cyst) ซึ่งหากเป็นถุงน้ำนี้ อาจมีผลทำให้มีบุตรยากได้ เนื่องจากภาวะเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่นี้ มักจะก่อให้เกิดพังผืดในอุ้งเชิงกราน และมีผลต่อท่อนำไข่ให้ตีบหรือตันได้ แต่การที่มีถุงน้ำนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้มีบุตรยากเสมอไปนะครับ ในผู้หญิงบางราย ก็สามารถมีบุตรได้ตามปกติ

ดังนั้น หมอขอให้ความเห็นเพิ่มเติมจากคุณหมอท่านนะครับ ถ้าหากคุณต้องการมีบุตรมากและยังไม่อยากผ่าตัด อาจลองและพยายามมีบุตรให้ได้ก่อน แต่หากว่าภายใน 1 ปียังไม่สามารถมีบุตรได้ หมอแนะนำให้มาประเมินขนาดและลักษณะถุงน้ำอีกครั้ง และค่อยประเมินถึงการผ่าตัดอีกครั้งครับ และการผ่าตัดหมอแนะนำให้เป็นการผ่าตัดแบบส่องกล้องหากสามารถทำได้ เพราะการผ่าตัดแบบส่องกล้องจะทำให้พังผืดที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัดเกินน้อยกว่าการเปิดหน้าท้องครับ และการให้ยาอาจไม่เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการมีบุตร เพราะนอกจากจะทำให้มีบุตรไม่ได้แล้ว หลังหยุดยาอาจใช้เวลานานกว่าจะกลับมามีบุตรได้ครับ

ส่วนถุงน้ำนี้มักมีขนาดเท่าเดิมหรือลดขนาดลงในช่วงมีบุตรครับ และถุงน้ำชนิดนี้ ไม่ใช่มะเร็งครับ