กระดานสุขภาพ

มีตุ่มที่อวัยวะเพศครับขอรบกวนคุณหมอดูให้หน่อยครับ
Anonymous

28 กันยายน 2560 15:52:53 #1

คือมีตุ่มใสทั่วบริเวณอวัยวะเพศครับ มันไม่คัน เวลาเกามีเเผลเป็นน้ำใสครับ ผมไม่รู้วาเกิดจากสาเหตุใดครับ น่าจะเกี่ยวกับการช่วยตัวเองไหมครับ ขอรบกวนคุณหมอครับ
อายุ: 15 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 162ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.91 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

29 กันยายน 2560 04:53:50 #2

อายุ 15 ถ้ายังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ 1. ตุ่มที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากการแพ้หรือระคายเคืองต่อสารที่ใช้บริเวณนี้ ล้างแผลด้วยน้ำเกลือที่ซื้อตามร้านขายยาโดยล้างบ่อยๆ และกินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งเช้าเย็น น่จะดีขึ้นใน 7-10 วัน หรือ 2 เชื้อรา จากความอับชื้นโดยเฉพาะถ้าเป็นคนมี่มีเหงื่ออกมาก เช่นทำงานที่ออกแรง เล่นกีฬา ทำให้ต้องใส่ชุดชั้นในที่อับชื้น จึงเกิดเชื้อราได้ง่าย จะมีผื่นแดงที่บริเวณขาหนีบ ลูแอัณฑะ คัน ให้ใช้ยาเชื้อรา เช่น clotrimazole, ketoconazole ทาเช้าเย็น ประมาณ 3-4 อาทิตย์ ก็จะหาย และเมื่อหายแล้วต้องระวังเรื่องสุขลักษณะ อาบน้ำบ่อยๆ ใส่ชุดชั้นในที่แห้งสนิท และควรเปลี่ยนเมื่อชุดชั้นในเปียกเหงื่อหรือรูสึกอับชื้น หรือ 3. หิด เป็นโรคผิวหนังที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือการสัมผัสอย่างใกล้ชิด นอกจากมีตุ่มบริเวณอวัยวะเพศแล้ว มักจะมีตุ่มคันที่หน้าท้อง รอบเอว และง่ามนิ้วมือ รักษาโดยให้อาบน้ำ ฟอกสบุ่ให้สะอาด ใช้ยา hexin ทาทั่วตัวตั้งแต่คอลงมา ถึงปลายมือปลายเท้า ทิ้งไว้ 24 ชม. ถ้าอาบน้ำค้องทาซ้ำ หลังจากนั้น รอจนครบ 1 อาทิตย์ ให้ทาซ้ำอีก 1 ครั้ง ให้รักษาคนที่อยู่ใกล้ชิด นอนเตียงเดียวกัน และทำความสะอาดเครื่องนุ่งห่ม หมอนเป็นต้น แต่ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น เที่ยวผู้หญิง ไม่ใช้ถุงยาง มีคู่นอนหลายคน
1. โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น

มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศและลักษณะที่เป็น แนะนำหาหมอหรือถ่ายรูปชัดๆบริเวณที่เป็นและให้ข้อมูลทางเพศสัมพันธ์เพิ่มเติมครับ