แนะนำให้กินอาหาร 3 มื้อหลักและมีอาหารว่าง 2 มื้อ ( ระหว่างมื้อกลางวันกับมื้อเย็น 1 มื้อและก่อนนอนอีก 1 มื้อ ) โดยในมื้อหลักต้องมีอาหารหลากหลายครบหมวดหมู่ ทั้งคาร์โบไฮเดรท โปรตีนไขมัน วิตามินและเส้นใยอาหาร ส่วนมื้อว่างก็เป็นนมไขมันธรรมดากับผลไม้หรือแซนวิชซึ่งจัดหาได้สะดวกและก็มีความหลากหลายครบหมวดหมู่เช่นเดียวกัน ที่ต้องเน้นให้กินให้หลากหลายในแต่ละมื้อก็เนื่องจากสารอาหารแต่ละชนิดร่างกายจะนำไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุดก็ต้องอาศัยสารอาหารอื่นๆ มาช่วยให้ร่างกายนำไปใช้หรือดูดซึมได้ดี เช่น วิตามินซีช่วยในการดูดซึมเหล็ก ไขมันช่วยในการดูดซึมแคโรทีนอยด์ วิตามินเอ ดี อี เค ต้องการไขมันเป็นตัวทำละลายก่อนที่จะดูดซึมเข้าไปในร่างกาย เป็นต้น

นอกจากคำนึงถึงมื้ออาหารแล้วต้องคำนึงถึงปริมาณและพลังงานที่ควรได้รับเพื่อเป็นสิ่งยืนยันว่าร่างกายได้รับพลังงานอย่างเพียงพอในแต่ละวันจริง

ส่วนสูง 160 เซนติเมตร ควรมีน้ำหนักตัว 54 กิโลกรัม และควรได้รับพลังงาน 30-35 แคลอรี่ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวันเพื่อรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ซึ่ง = 1,620-1,890 แคลอรี่ต่อวัน

กรณีนี้ขอแนะนำให้กินอาหารให้ได้พลังงานอย่างน้อย 1,890 แคลอรี่ต่อวัน

ตัวอย่างกินให้ได้รับพลังงานตามนี้

เช้า ไข่ต้ม 1 ฟอง พลังงาน 75 แคลอรี่

นมไขมันธรรมดา 1 กล่อง พลังงาน 150 แคลอรี่

กล้วยหอม 1 ลูก พลังงาน 120 แคลอรี่

เที่ยง ข้าวกระเพราหมูสับ 1 จาน พลังงาน 400 แคลอรี่

เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม พลังงาน 190 แคลอรี่

สับปะรด 1 ชิ้น พลังงาน 120 แคลอรี่

บ่าย แซนวิชทูน่า 1 ชิ้น พลังงาน 160 แคลอรี่

เย็น ข้าวกล้อง 2 ทัพพี พลังงาน 160 แคลอรี่

ต้มยำปลา-เห็ด พลังงาน 110 แคลอรี่

ไข่เจียวหอมใหญ่ 1 ฟอง พลังงาน 165 แคลอรี่

แก้วมังกร 1 ลูก พลังงาน 120 แคลอรี่

ก่อนนอน นมไขมันธรรมดา 1 กล่อง พลังงาน 150 แคลอรี่

รวมพลังงาน 1,845 แคลอรี่

ต้องกินให้ได้ครบทุกมื้อและทุกวันอย่างน้อย 1 อาทิตย์จึงจะเห็นผล

ถ้ามีการออกกำลังกายก็อาจต้องเพิ่มพลังงานขึ้นอีกอย่างน้อย 200 แคลอรี่ต่อวัน

ส่วนการที่กินแล้วมีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วขอให้สังเกตว่าเป็นเมื่อกินอาหารนอกบ้านเท่านั้นหรือเปล่าเพราะเป็นไปได้ว่าอาจมาจากกินผงชูรสเยอะ ให้ลองเปรียบเทียบกับถ้ากินอาหารที่ทำเองที่บ้านและไม่ใส่ผงชูรสดู ขอให้ประสบผลสำเร็จในการเพิ่มน้ำหนักตัวแล้วอย่าลืมออกกำลังกายด้วยนะจะได้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง