กระดานสุขภาพ

เคยกินยาคุมพอหยุดทำไมประจำเดือนไม่มา
Anonymous

8 เมษายน 2560 04:45:59 #1

ขออนุญาตรบกวนนะคะ ก่อนอื่นขอบอกก่อนหนูเป็นคนรูปร่างผอม ที่สิวเยอะมากทั้งใบหน้าและตามตัว หนูเลยกินยาคุมเพื่อปรับฮอร์โมนครั้งแรกกินไป2เดือนแล้วหยุดยาคุมคะ. ตอนนั้นประจำเดือนมาปกตินะค่ะพอหยุดไปสัก5เดือนหนูก็กลับมากินอีกครั้งนี้กิน3เดือนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายต้นเดือนตุลาคมถึงตอนนี้เดือนเมษายนประจำเดือนหนูก็ยังไม่มา ประมาณ7เดือนแล้ว มีอาการตกขาวไม่มีกลิ่ม ปวดท้องน้อยมาประมาณ2สัปดาห์ ไม่มีเพศสัมพันธ์ อยากทราบว่าเป็นอันตรายมากหรือเปล่ามีวิธีรักษาหรือต้องทำอย่างไง ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 41 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.42 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

9 เมษายน 2560 05:01:18 #2

จากลักษณะอาการที่บอกมาคุณน่าจะมีปัญหา เรื่องการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติโดยเฉพาะเป็นกลุ่มอาการถุงน้ำของรังไข่ ที่เรียกว่าพีซีโอเอส หรือ polycystic ovarian syndrome ซึ่งภาวะนี้รังไข่จะกลายเป็นถุงน้ำ มีฟองไข่จำนวนมากมายอยู่ภายใน เพราะผิวรังไข่มีความหนาตัวมากไข่ไม่สามารถตกตามปกติได้ จึงทำให้ไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมาเปลี่ยนผนังเยื่อบุโพรงมดลูกให้สุกและลอกหลุดออกมาเป็นประจำเดือน สตรีที่มีภาวะนี้นอกจากจะมีประจำเดือนผิดปกติแล้วยังจะมีฮอร์โมนเพศชายมาก โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจนซึ่งจะทำให้เกิดลักษณะทางเพศชายเยอะ เช่นมีสิวมากหน้ามัน ขนดกมีหนวดเคราขนหน้าแข้งมาก และถ้าประจำเดือนไม่มาตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้ ดังนั้น จึงควรรักษาโดยการทานฮอร์โมนเพื่อให้รอบเดือนมาตามปกติ ฮอร์โมนที่ใช้ จะเป็นกลุ่มของฮอร์โมนโปรเจสโตเจนหรืออาจจะใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดก็ได้ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการรักษาสิวด้วย โดยจะต้องเลือกใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนแอนโดรเจนคุณสามารถปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรตามร้านขายยา เพื่อรับยามาทานได้ที่สำคัญควรจะต้องไปพบแพทย์ด้วยเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องต่อไป โดยการตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อประเมินสภาพของรังไข่ค่ะ