กระดานสุขภาพ

เป็น แผล หนอง ลาม ไม่หายมาหลายปีช่วยผมด้วยครับ
Man*****n

13 กุมภาพันธ์ 2556 03:06:45 #1

ผมขอรบกวนถามครับ ผมเป็นแผลหนองแล้วลามเป็นมา 5 ปี ไม่หาย ทานยาก็แค่ทุเลาแล้วกลับมาเป็นอีก

 

- ผมเป็นคนสูบบุหรี่วันละ 5-6 มวน ไม่ทานแอลกอลฮอล

- เมื่อก่อนเคยเป็นโรคเครียด ทานยาเยอะมากๆ ตอนนี้ไม่ได้ทานแล้ว

- เป็นคนนอนหลับยากและนอนน้อยเพราะต้องตื่นเช้า กว่าจะนอนประมาณตี 2-3 ตื่น 6 โมง- 6.30

 

เมื่อก่อนเป็นแผลเล็กๆแบบมดกัด แล้วมันเริ่มใหญ่ขึ้นแล้วมีหนองใสๆไหลออกมาเยอะมากๆ ไหลเป็นน้ำเลยครับ

ตอนนี้เริ่มเป็นแทบทั้งตัวแล้วครับผมกลุ้มใจมากๆเลยครับ ตรวจเลือดแล้วก็ปกติ ไปหาหมอก็ให้ทานยาแก้แพ้แก้คันแก้อักเสบมาตลอดเลยครับและยาทาด้วยก็ไม่หาย

ตอนนี้เป็นที่ นิ้ว หลังมือ ข้อสอกทั้งสองข้างใหญ่มาก ง้ามขาสองข้าง หลังขาบน และขาล่างทั้งสองข้าง สีข้างเอว ตอนนี้เริ่มขึ้นที่หัวและที่หูแล้วครับ

หมอบอกว่าอาจจะไปเกามันถึงได้ลาม แต่ผมไม่เกามันก็ขึ้นมาเพิ่มเองครับ

ยิ่งตอนนี้นะครับ น้ำหนองใสๆ ไหลเยอะมากๆไหลหยดลงพื้นเลยครับ หมอบอกว่าอาจจะแพ้สารเคมีหรือแพ้อาหาร ผมก็ปรับเปลี่ยนหมด

http://haamor.com/media/images/webboardpics/man-3383-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/man-3383-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/man-3383-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/man-3383-4.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/man-3383-5.jpg

คุณหมอครับช่วยผมด้วยนะครับ ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับผม ตอนนี้กลัวจะเข้าสังคมและทำงานไม่ได้ครับ ขอความกรุณาด้วยนะครับ

 

อายุ: 35 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 61 กก. ส่วนสูง: 178ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.25 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Man*****n

15 กุมภาพันธ์ 2556 15:16:06 #2

คุณหมอครับ ช่วยตอบทีครับผม - -*

พ*****

16 กุมภาพันธ์ 2556 14:15:41 #3

จากภาพที่แสดงเป็นลักษณะของกลุ่มโรคผิวหนังอักเสบซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในซึ่งอาจแก้ไขไม่ได้เต็มที่ ดังนั้นยาส่วนมากที่ได้รับจะเป็นยาทาลดอาการแพ้ ยารับประทานที่ระงับคันและอาการแพ้ค่ะ แต่ดังที่กล่าวข้างต้นว่าอาจมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นปัจจัยภายนอกที่เป็นสาเหตุของอาการนี้ได้ หากหลีกเลี่ยงสารพวกนี้ อาการก็จะดีขึ้นได้ค่ะ หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์ เนื่องจากอาจต้องสืบค้นทางห้องปฏิบัติการเพิ่ม หรือปรับเปลี่ยนขนาดยารับประทานค่ะ

Man*****n

18 กุมภาพันธ์ 2556 03:01:10 #4

ขอบคุณมากๆครับ ผมไปหาหมอมาตลอด 5 ปี และโรงพยาบาลใหญ่ครับ แต่ลองเปลี่ยนที่ก็ให้ยาเหมือนเดิมๆครับ

- แก้แพ้

- แก้คัน

- แก้อักเสพ

- ยาทา (สเตลลอย) ผมทามานานเกินไป กลัวจะเข้ากระแสเลือด ตอนนี้ผิวดำและเหี่ยวเกิดจากยาที่ทาแล้วครับ

- ยาอาบน้ำ (ได้บางครั้ง)

 

มีทางตรวจอย่างอื่นหรือไม่ครับ หรือยาฉีด ผมกลัวมันจะเป็นจากภายในไม่ใช่ภายนอก กลัวว่าจะเป็นอะไรภายในหรือเปล่าเพราะมันนานเกินไปที่เป็นแล้วครับ

 

ขอบคุณมากๆครับ ผมไม่สบายใจเลยตอนนี้ก็เป็นหนักขึ้นครับ

พ*****

19 กุมภาพันธ์ 2556 05:02:30 #5

สามารถไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ รพ.ศูนย์ รพ.จังหวัด ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับจังหวัดที่อยู่เนื่องจากมีเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆครบ และแพทย์จะพิจารณเลือกยาที่ลดการแพ้ที่ไม่ใช่สเตีรอยด์ได้ค่ะ เนื่องจากมีผลข้างเคียงจากการทาเป็นเวลานาน ส่วนการฉีดยาต่างๆอาจไม่ได้ผลในการรักษาค่ะ

Man*****n

20 กุมภาพันธ์ 2556 08:01:59 #6

ขอบคุณ คุณหมอมากๆครับ

 

ตอนนี้ผมมาหาหมอที่เชียงใหม่ ได้รับการตรวจโดยเอาสเก็ดแผลไปหาเชื้อ สรุปไม่มีอะไร

หมอได้ฉีดยาที่แขนซ้าย บอกว่าช่วยให้น้ำหนองแห้ง และให้ยาทาน กับยาทามา

 

- UREA10%+0.1% TA CREAM(UT10)

- CETirizine 2HCI 10 mg Tab

 

เมื่อก่อนทาน (มีอีกสองตัวแต่ซองไม่อยู่ มีทานก่อนนอน กับ เช้า กลางวัน เย็น ครับ)

- loraTADINE TAB 10 mg (หลังอาหารเช้า)

 

ต่างกันไหมครับ แต่ผ่านมาวันเดียวรู้สึกดีขึ้น แผลหายและไม่คัน แต่เมื่อก่อนก็เป็นอย่างนี้ละครับ สักพักมันก็กลับมาเป็นอีกแล้วจะหนักกว่าเดิมเมื่อไม่ได้ทานยาครับ

 

พ*****

5 มีนาคม 2556 15:58:03 #7

ยาทาที่ได้รับเป็นสารให้ความชุ่มชื้น เนื่องจากผิวที่เกิดการแพ้มักมีโครงสร้างที่เสียไปและช่วยผลัดเซลล์เล็กน้อยเพื่อให้การซึมยาดีขึ้น ร่วมกับยาสเตียรอยด์ที่ลดอาการแพ้ คันค่ะ

ยารับประทานที่ได้รับเป็นกลุ่มยาต้านฮีสตามีนหรือที่รู้จักว่ายาแก้แพ้ ยาภูมิแพ้ ที่ได้รับประทานสองตัวนี้เป็นยาที่ได้รับการพัฒนาสูตรให้ผลข้างเคียงลดลงค่ะ ง่วงน้อยลงค่ะ สองชนิดนี้ไม่มีความต่างกันมากนักค่ะ