กระดานสุขภาพ

อวัยวะเพศลอกเป็นเกล็ด แล้วมีสีดำคล้ำค่ะ
Pupa*****s

6 กุมภาพันธ์ 2556 03:40:11 #1

ปกติแล้วอวัยเพศของหนูจะมีสีขาวเหมือนผิวส่วนอื่นๆ อยู่ดีๆ ก็เริ่มคัน คันแค่ภายนอกนะคะ ไม่ได้คันในช่องคลอด เพราะ

หนูคิดว่าช่วงนั้นคงเป็นเพราะเชื้อราในร่มผ้า ช่่วงพักอยุ่หอ ชุดชั้นในไม่เคยตากแดดเลยค่ะ 

แล้วช่วงนั้นใช้แลคตาซิสทำความสะอาดด้วย ไม่รู้ว่าเพราะแลคตาซิสด้วยหรือเปล่า คันสักพัก มันก็ลอกเป็นเกล็ด

ขาวๆค่ะ หนูเกาจนเป็นแผล แล้วขนบริเวณอวัยวะเพศมันจะแตกปลาย แล้วก็ขาดเหมือนเส้นผมเลยค่ะ  หนูคิดว่าแป๊บ

เดียวคงหาย แต่ก็เป็นมาเรื่อยๆ ประมาณเดือนกว่าๆ หนูเลยไปซื้อยา คาเนสเทน ที่ใช้ฆ่าเชื้อรามาทา 1 เดือนผ่านไป อา

การดีขึนค่ะ คันน้อยลง เกล็ดขาวๆก็ลดน้อยลง จนยาหมดหลอด ตอนนี้มันยังไม่หายค่ะ มันยังมีตุ่มเหมือนเป็นผื่นเล้กๆ

และมีอาการคันอยู่ ที่สำคัญผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศมันเป็นสีคล้ำๆ จนม่วงเลยค่ะหมอ หนูต้องทำยังไงคะ ตอนนี้หนู

แวกซ์ขนออกหมดแล้ว จะไปซื้อยามาทาต่อ ก็กระไรๆอยู่ หนูขอคำปรึกษาจากหมอก่อนละกันนะคะ ช่วยหนูด้วย TT

ขอบพระคุณมากๆค่ะ

อายุ: 17 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 40 กก. ส่วนสูง: 150ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.78 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

7 กุมภาพันธ์ 2556 08:31:39 #2

จากอาการที่บอกมาคุณน่าจะมีการติดเชื้อราภายในช่องคลอด แต่คุณไม่ได้ให้ประวัติมาว่ามีเพศสัมพันธ์หรือยัง เพราะจะมีผลต่อแนวทางในการรักษาด้วย ส่วนใหญ่ถ้ามีอาการคันภายนอกมักจะมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อราภายในช่องคลอด ซึ่งสิ่งคัดหลั่งที่มีเชื้อราอยู่นั้นจะไหลออกมาบริเวณอวัยวะเพศภายนอกด้วย ทำให้เกิดอาการระคายเคือง คัน และมีการอักเสบของผิวหนังบริเวณภายนอกและมีผื่นขึ้น ถ้าคุณไปเกาผิวก็จะลอกมีลักษณะเป็นเกล็ดได้เช่นกัน การรักษาจะต้องใช้ยาสำหรับเชื้อรา ควรจะต้องสอดยาร่วมด้วยเพราะจะช่วยในการรักษาการติดเชื้อภายในช่องคลอดด้วย ในกรณีที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ควรจะต้องรับประทานยาสำหรับเชื้อรา เช่น ยาในกลุ่ม itraconazole รับประทานนาน 2-5 วัน ขึ้นกับอาการที่มี ร่วมกับยาทาเฉพาะที่ เช่น clotrimazole cream ซึ่งคุณได้ใช้ไปแล้วและอาการดีขึ้น สามารถปรึกษาที่รานขายยาที่มีเภสัชกรได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องพยายามหลีกเลี่ยงความอับชื้น ใช้ผ้าอนามัยแผ่นบางและเปลี่ยนทิ้งบ่อยๆ ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง ในช่วงที่มีสิ่งคัดหลั่งออกมามาก เช่น ในช่วงก่อนและหลังมีประจำเดือน และในช่วงกลางรอบเดือนซึ่งตรงกับช่วงไข่ตก ไม่จำเป็นต้องแว็กซ์ขนออก เพราะจะทำให้เกิดแผลเล็กๆที่มองไม่เห็น จจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้นได้ สบู่ยาแล็กตาซิดสามารถใช้ได้ต่อไป ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ควรมาพบแพทย์ค่ะ

Pupa*****s

7 กุมภาพันธ์ 2556 14:04:20 #3

เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วก็มีเป็นปกติค่ะ เคยเป็นหนองใน แต่กินยารักษาจนหายแล้ว แล้วตอนที่เคยเป็นหนองใน ไม่ได้มีอาการ

คันภายนอกแบบนี้ ตอนนี้ไม่ได้มีอาการคันภายในช่องคลอด

หรือบริเวณทางเข้าช่องคลอดเลยค่ะหมอ มันเป็นผื่นบริเวณใต้ท้องน้อยบริเวณขนที่หัวหน่าวอะค่ะ จำเป็นมั้ยคะต้องใช้ยา

สอดด้วย ถ้าภายในช่องคลอดมีเชื้อราอยู่จริง มันไหลขึ้นมาด้านบนได้หรอคะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

8 กุมภาพันธ์ 2556 08:13:51 #4

สาเหตุของการผิวหนังอักเสบบริเวณอวัยวะเพศที่เกิดจากเชื้อรา ส่วนใหญ่จะมีอาการร่วมกับการติดเชื้อภายในช่องคลอด เพราะเชื้อราชอบบริเวณที่มีความอับชื้น โดยเฉพาะส่วนช่องคลอด และอวัยวะเพศทั่วไป เมื่อมีการอักเสบบริเวณใดบริเวณหนึ่งและไม่ได้รักษา การติดเชื้อก็จะขยายวงกว้างมากขึ้น จึงไม่แปลกที่เชื้อราจะขยายวงกว้างไปถึงผิวหนังบริเวณเหนือหัวเหน่าหรือท้องน้อย โดยสตรีที่มีอาการอาจไม่จำเป็นต้องมีอาการคันภายในช่องคลอด ถ้าเป็นซ้ำเรื่อยๆ อาการคันในช่องคลอดอาจจะน้อยลงมาก ทางที่ดีถ้าคุณไม่แน่ใจก็ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจภายในร่วมด้วย แพทย์จะนำสิ่งคัดหลั่งในช่องคลอดไปตรวจ จะได้รักษาด้วยยาที่ถูกต้องตรงกับเชื้อที่พบต่อไปค่ะ

Anonymous

18 ตุลาคม 2556 13:00:05 #5

คุณหมอค่ะ หนูอยากทราบว่า อาการที่หนูเป็นต้องรักษาอย่างไรค่ะ พอดีว่าหลังจากที่หนูใกล้จะหมดประจำเดือนได้1วันก็มีอาการคันบริเวณภายนอกอวัยวะเพศค่ะ แล้วหลังจากที่ประจำเดือนหมดไปได้ประมาณ2วันหนูก็สังเกตเห็นว่าบริเวณรอบๆอวัยวะเพศมีอาการลอกเป็นขุยๆสีขาวค่ะ เลยอยากให้คุณหมอแนะนำว่าหนูควรจะรักษาอย่างไงดี ขอบคุณค่ะ