กระดานสุขภาพ

ผมเป้นไช่ไหม
Love*****_

6 ตุลาคม 2559 12:42:06 #1

ผมเป้นคนที่ช่วยตัวเองบ่อยมาก อยุมาวันนึ่ง หลังจากเส้จแล้ว ผมรุ้สึกแสบๆ ที่ ลูกอันฑะ พอมองไปมันเป้น รอยพองเหมือน มันเสียดสีกัน ผมก๊ไม่คิดอะไรมาก ผมเลยนอน พอตื่นขึ้นมา มันเป้น ผืนแดงๆมีเหมือนหนอง ผมก็เริ่มกังวลมากขึ้น พอผมไปทำงาน งานผมคืนต้องงเดินตลอด ทีนี้เหมือนมันสีกัน เกิดเป้นเหมือนรอยไหม้ที่ ลูกอันฑะ แสบมาก ผมเลยเอายา แบ็คตาซินมาทา ทาทั้งวันเลย พอเลิกงานผมกับมาบ้านผมเปิดดู มันลามขึ้นไปที่อวัยวะเป้นเหมือนรอยไหม้ ดำๆ ลอกผิวหนังดำๆออกได้ ตอนนี้มันลามไปเรื่อยๆแล้ว ผมติดเชื้อนั่นไช่ไหมครับ ผมต้องตายไช่ไหมครับ
อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.69 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Love*****_

6 ตุลาคม 2559 12:45:29 #2

ผมกัวมากๆเลยตอนนี้
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

20 ตุลาคม 2559 04:12:37 #3

การช่วยตัวเองถือเป็นเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ไม่มีโอกาสที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ ถ้าการช่วยตัวเองที่ไม่บ่อย เช่นอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง จากการศึกษาไม่พบว่ามีผลเสียต่อสุขภาพหรือเรื่องสมรรถภาพทางเพศ ในบางรายที่มีการช่วยตัวเองที่บ่อย เช่น วันละหลายครั้งหรือทุกวัน และทำติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจมีผลทางด้านจิตใจ เป็นคนเสพติดการช่วยตัวเอง เวลามีการร่วมเพศจริงๆกับผู้หญิง อาจจะเกิดภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือการหลั่งเร็วหรือหลั่งก่อนการสอดใส่ก็ได้ นอกจากนี้ถ้าถ้ามีการช่วยตัวเองที่บ่อยเกินไป และรุนแรง นานเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบของท่อปัสสาวะและเนื้อเยื่อรอบๆอวัยวะเพศ เกิดอาการปัสสาวะบ่อย ปวดท้องน้อยและหน่วงที่ลูกอัณฑะ แนะนำว่าอย่าหมกมุ่นเรื่องเพศมากเกินไป งดดูหนังโป๊ ภาพการร่วมเพศ ให้ออกกำลังกาย เช่น วิ่ง เล่นฟุตบอล หางานอดิเรก ดูหนังฟังเพลง ก็จะลดความต้องการทางเพศลงได้ ในกรณีของคุณที่เกิดแผลไหม้ที่บริเวณอวัยวะเพศหลังจากช่วยตัวเองอาจจะเกิดจากการเสียดสีหรืออาจจะเกิดจากการแพ้ยา ลองนึกดูว่าก่อนเป็นมีกินยาหรือไม่ ยาที่แพ้บ่อย เช่น ยาแก้ไข้ ยาแก้อักเสบ ยาชุดที่ซื้อตามร้านขายยา ถ้ามีประวัติว่ากินยา แผลที่เกิดขึ้นก็เกิดจากการแพ้ยา ให้หยุดกินยาที่สงสัยว่าจะแพ้ ล้างแผลด้วยน้ำเกลือล้างแผลที่ซื้อตามร้านขายยา กินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัมเช้าเย็น ในกรณีที่ไม่แน่ใจ แนะนำหาหมอครับ ส่วนที่กังวลว่าจะเป็นการติดเชื้อโรคร้ายแรงหรือโรคเอดส์นั้น อาการที่เล่ามาไม่ใช่อาอารของการติดเชื้อเอดส์ ส่วนเรื่องอาการโรคเอดส์ ขออธิบายดังนี้ 1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ 2. ระยะที่ไม่มีอาการจะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด 3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น ถ้ามีความเสี่ยง เช่นไม่ใช้ถุงยาง สามารถตรวจเลือดได้โดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสีนค่าตรวจครับ