กระดานสุขภาพ

มีตุ่มบวมแข็งที่ก้นครับ
Tumm*****g

26 สิงหาคม 2559 05:05:11 #1

มีตุ่มเป็นไตขึ้นแข็ง ๆ ขึ้นมาที่ขอบทวารหนักด้านขวาครับ จับแล้วเจ็บ ก็เลยไปหาเภสัชกรซื้อยามากินครับ เขาให้ยา Cephalexin มากิน ขนาด 500 มก.มื้อละ 2 เม็ด ก่อนอาหาร  กินมา 2 โดส ๆ ละ 20 เม็ด ประมาณ อาทิตย์หนึ่งก็ยังเป็นตุ่มเหมือนเดิมครับ นั่งหรือเดินไม่เจ็บครับ แต่จะเจ็บเวลาถ่าย หรือถ้าไปจับโดนก็จะเจ็บ

เป็น ฝีหรือป่าวครับ แต่ทำไมมันถึงยังไม่แตกครับ ต้องไปให้หมอผ่าออกไหมครับ กลัวมากเลย เคยหาข้อมูลน่ากลัวมาก เจ็บมากด้วยและก็รักษาเป็นเดือนเลย

รวบกวนคุณหมอด้วยนะครับ

 

อายุ: 46 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 145 กก. ส่วนสูง: 187ซม. ดัชนีมวลกาย : 41.47 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Tumm*****g

29 สิงหาคม 2559 04:26:28 #2

ถ้าเกิดต้องผ่าต้องนอนร.พ. ไหมครับ  ผมอ้วนและ น้ำหนักเยอะ จะเป็นปัญหากับการผ่าหรือป่าวครับ  ส่วนมาหมอจะฉีดยาชาหรือบล๊อคที่หลังครับ ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

29 สิงหาคม 2559 07:53:55 #3

ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือไม่ใช่ชายรักร่วมเพศ ไม่ได้มีการร่วมเพศทางทวารหนัก ตุ่มที่เป็นอาจจะเป็นฝีที่เกิดจากการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียทั่วไปเหมือนกับการเกิดฝีทั่วไป ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอนประมาณ 2 อาทิตย์ซึ่งถ้าไม่ดีขึ้น ก็อาจจะต้องผ่าเฝีเพื่อระบายหนองออกจากฝี หรืออาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของริดสีดวงทวารหนัก สาเหตุของริดสีดวงทวาร มีหลายอย่าง เช่น ลักษณะนิสัยการถ่ายผิดปกติ (ท้องผูก หรือ ท้องเสีย) ออกกำลังกายน้อย รับประทานอาหารที่มีเส้นใยเช่นผักผลไม้น้อย เบ่งอุจจาระนาน อ้วน และนั่งเป็นเวลานานๆ ถ้าเป็นมากขึ้น เส้นเลือดจะโป่งออก และโผล่ออกมาอยู่ด้านนอกได้ ถ้ามีการรักษาที่ถุกต้อง ตั้งแต่เรื่องสุขอนามัย การกินอาหารประเภทผัก ผลไม้ ดื่มน้ำมากๆ ปรับเรื่องการขับถ่ายซึ่งการฝึกต้องทำบ่อยๆจนเกิดความเคยชิน หรืออาจรักษาด้วยการฉีดยาให้ยุบ การผูกเส้นเลือด การจี้ด้วยเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรง ถ้ารักษาแล้วก็จะไม่เห็นจากภายนอก แต่ถโดยสรุป ขึ้นกับลักษณะของตุ่ม ที่เป็นและความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์เช่น เป็นชายรักชาย มีการสอดใส่ทางทวารหนัก ก็อาจจะเป็นโรคติดต่อ เช่น หูดหงอนไก่ แผลซิฟิลิส เป็นต้น โดยสรุป ขึ้นอยู่กับลักษณะของตุ่มที่เป็นและความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ แนะนำหาหมอ
หรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นและให้ข้อมูลทางเพศสัมพันธ์เพิ่มเติมครับ