ถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เที่ยวผู้หญิง มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง ก็อาจจะเป็นโรคติดต่อ เช่น

1. แผลเริม เป็นแผลที่พบบ่อยที่สุด ถ้าเป็นครั้งแรกต้องมีการติดเชื้อจากคนอื่นโดยทางเพศสัมพันธ์ จะเป็นตุ่มน้ำใสหรือตุ่มหนอง แตกเป็นแผล เป็นครั้งแรกจะรุนแรง รักษาโดยกินยา acyclovir ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว เชื้อเริม (HERPES SIMPLEX) จะแฝงอยู่ใต้ผิวหนัง และเป็นซ้ำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ เช่นการช่วยตัวเอง การเสียดสี เป็นต้น ลักษณะจะเป็นตุ่มน้ำใส แลวแตกเป็นผล รักษาความสะอาด จะหายเองได้ แต่ถ้าเป็นมากก็ใช้ยา acyclovir ชนิดกิน ส่วนชนิดทาไม่ค่อยมีประโยชน์นัก

2. แผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง พบมากในชายรักร่วมเพศ เป็นหลังเสี่ยง 10-90 วัน แต่จะเป็นตุ่มหนองมากกว่าตุ่มใส แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ ถ้าไม่รักษาจะเป็นระยะที่ 2 มีผื่นขึ้นตามตัว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักษาโดยการฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านหน่วย พบบ่อยในชายรักร่วมเพศ

แต่ถ้าไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงคือ ยังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ ก็อาจเป็น

1. ซีสต์ หรือถุงน้ำหรือต่อมต่างๆที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งอาจจะค่อยๆยุบได้เอง หรือถ้าใหญ่ขึ้น ก็อาจจะต้องให้แพทย์เลาะออก

2. แผลพุพองจากการแพ้ยา เช่น ยาแก้อักเสบประเภท เตตราซัยคลีน ซัลฟา เป็นต้น ถ้ามีประวัติว่าก่อนเป็น ซื้อยากินเอง ต้องหยุดยาที่สงสัยว่าจะแพ้ ใช้น้ำกเลือล้างแผลที่ซื้อตามร้านขายยา ล้างแผลเช้าเย็น

โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรมทางเพศและลักษณะของตุ่มที่เป็น แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆ รวมทั้งให้ข้อมูลทางเพศสัมพันธ์เพิ่มเติม

http://www.mx7.com/view2/yGr1fWw1N0KfH97F