สวัสดีครับอาการดังกล่าวคงไม่ใช่อาการหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันหรอกครับ แต่ว่าน่าจะเป็นการปวดศีรษะที่อาจเป็นไมเกรนแบบรุนแรง หรือไม่ก็เป็นอาการที่เกิดจากกล้ามเนื้อหดตึงตัวของร่างกายด้านซ้ายอย่างรุนแรงครับ ผมว่าถ้าไม่ดีขึ้นเลย 2-3 วันน่าจะพบแพทย์ดีกว่าครับ แต่ถ้าเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่ต้องพบแพทย์ก็ได้ อย่างไรก็ตามผมยังอยากให้พบแพทย์เพื่อประเมินอาการให้ละเอียดครับ
โชคดีครับ

สมศักดิ์

ไปหาหมอมาละค่ะ หมอบอก อาการมันไม่ชัดเจนว่าเป็นอะไร คุณหมอให้วิตามินบีรวมมาทานค่ะ

ทีนี้ เมื่อวานตอนกลับมา จู่ๆ ตัวก็เย็นค่ะ รู้สึกตัวเองเหมือนมีไอเย็นๆพ่นออกมาตามร่างกาย ทีนี้เท้าซ้ายก็รู้สึกเย็นซ่าๆ ไม่ชาแล้วแต่มันเหน็บๆ ซ่าๆบอกไม่ถูก แล้วก็เมื่อยมากค่ะ ข้างขวาไม่เป็นอะไรเลย แต่ไม่มีอาการปวดหัวอีกนะคะ มีแต่วันนั้นที่บอกหมอไปว่า มันตุบๆที่ท้ายทอย มันตุบ ตุบ แต่ตอนนี้ไม่ปวดอีกแล้ว หนูควรยังไปตรวจเกี่ยวกับเรื่องไมเกรนมั้ยคะ 

ทีนี้มีอีกเรื่องค่ะ หมอะค้าถามถึงเรื่องกระเพาะด้วย เคยทาน miracid แล้ว แล้วก็กลับมาเป็นอีก อาจเพราะ ไม่กินข้าวตรงเวลาอีก เมื่อคืนจะนอนเร็วๆ จะได้ไม่หิว ก็รู้สึกหิวทันที หลังกินสามชั่วโมง เหมือนน้ำย่อยมันออกมาอะค่ะ กดตรงจุดที่ปวดดู ตรงข้างขวาข้าวสะดือ ตอนแรกกดเจ็บ สักพักก็ไม่เจ็บ แต่รู้สึกได้ว่าท้องมันโครกคราก ถ้าปล่อยไว้นานอาจจะเวียนหัว แล้วก็ทำใจจะหลับให้ได้ สุดท้ายสู้ไม่ไหว ลงไปทานแซนวิชละก็มานอน

วันนี้ตื่นมาก็พยายามแบ่งมื้อเป็น 4-5 มื้อ ปรากฎว่า หิวเร็วมากค่ะ หมอที่ รพ บอกให้แบ่งเป็นเล็กๆ 4-5 มื้อ ทานเสร็จ 2 ชม หิว ตลอดเลย หมอว่าหนูควรถึงเวลาส่องกระเพาะ และลำไส้หรือยังคะ หนูทนไม่ไหวละค่ะ ปวดมาบ่อยเหลือเกิน หิวก็บ่อย หนูไม่อยากมานอนทรมานกับกรดก่อนนอนอีกแล้วค่ะ หนูกลัวกระเพาะทะลุ อักเสบไปมากกว่านี้ 

อีกเรื่องค่ะ ตอนเที่ยงๆ หนูรู้สึกตัวเย็นอีก แบบจู่ๆก็เย็น หนูถ่ายไปสามรอบ มันเหมือนท้องเสียแต่ก็ไม่ใช่ เพราะยังเป็นก้อนค่ะ และก็มีเศษอาหารด้วย แต่มันเป็นก้อนไม่ใหญ่น่ะค่ะ หลังจากถ่ายเสร็จ ก็เนี่ยแหละค่ะ รู้สึกตัวเย็น ก็เลยคิดว่า ขาดน้ำรึป่าว เลยดื่มผงเกลือแร่ค่ะ แล้วก็ดีขึ้น ไม่มีอาการเย็นวูบวาบอีก 

สวัสดีครับ ผมว่าอาการหนูนั้นถ้าพบแพทย์และไม่พบความผิดปกติใดๆ ร่วมกับมีอาาการระบบทางเดินอาหาร ถ่ายบ่อยครั้งแบบนี้ ทั้งหมดอาจเกิดจากความเครียดได้ครับ เรียกว่าโรคประสาทลำไส้(irritable bowel syndrome) หมายถึงมีความเครียดเป็นตัวนำ และส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ ตามมาครับ วิธีการรักษาคือการพบสร้างความมั่นใจว่าตนเองไม่มีโรคอะไร คลายความกังวล พบแพทย์เพื่อทำการรักษาครับ
โชคดีครับ

สมศักดิ์