กระดานสุขภาพ

สอบถามคุณหมอครับ
Anonymous

19 ตุลาคม 2557 09:11:39 #1

สวัสดีครับ

ผมขอสอบถามหน่อยครับ

พอดีแฟนผมมีประจำเดื่อน มา วันที่12ตุลาคม แต่ปกติต้องมาวันที่ 14 ครับ ผมมีเพศสัมพันวันที่ 16-17-18 สวมถุงยางครับ แต่วันที่ 16 ผมหลั่งในถุงยางครับและวันที่19สวมถุงยางครับและเช็คถุงดูเหมือนถุงจะรั่วเลยไห้กินยาคุมฉุกเฉินครับ(ผมมีอยู่แล้วครับเผื่อฉุกเฉิน)

แล้วผมก็ไปล้างครับ แล้ว ผมก็ได้มี พสพ อีกครับ แต่ไม่สวมถุงนะครับมีแบบลองครับไม่หลั่งนะครับไม่เสร็จอะครับแต่มีการกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้วครับแบบนี้มีโอกาสท้องไหมครับ ที่ผมกลัวคือมันค้างอยู่ข้างในอะครับเลยกลัว

เลยอยากถามคุณหมอครับว่าจะมีโอกาสพลาดไหมครับ

และส่วนใหญ่ประจำเดื่อนจะมาก่อนมาหลัง2-3วัน อย่างครั้งนี้มีก่อน2วันครั้งที่แล้วมาหลัง2วันครับแบบนี้ถือว่ามา28วันแบบสมั่มเสมิอไหมครับ

และผมนับหน้า7หลัง7 แต่ผมมี พสพ 5-6-7-8 แบบนี้เกินมาวันนึง จะมีโอกาสพลาดไหมครับ 

ช่วยทีครับและคุณหมอมีอะไรแนะนำผมมั้งไหมครับ ขอบคุณครับ

 

อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 86 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 28.08 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

19 ตุลาคม 2557 10:22:43 #2

อยากทราบอีกอย่างครับ 
ประจำเดื่อนมา 12 ตุลา วันนี้ วันที่ 19 ตุลา แบบนี้ยังถือว่าปลอดภัยไหมครับ

Anonymous

19 ตุลาคม 2557 10:55:53 #3

ลืมอีกนิดครับ

วันที่ 19 ผมสวมถุงยาง แตกในนิดนึงครับแล้วชักออก เช็ค แล้วน่าจะรั่วเลย ไห้กินยาคุมฉุกเฉินทันทีนะครับ แล้วก็ ไปล้างใช้สบูล้างและแฟนผมก็ดูดอีก

จากนั้นผมคิดว่ากินยาคุมฉุกเฉินไปเล้ว เลยขอ ลองแบบ ไม่สวมถุงยางซะนิดนึงครับ ก็เลย มี พสพ แบบไม่สวมถุงครับ  มีไปซะ5 นาที ก็เอาออกครับเพราะกลัวเสร็จ แบบนี้มีโอการท้องไหมครับ  เพราะผมนับ หน้า7 หลัง 7  เกินไปวันนึงจะเป็นอะไรไหมครับ 

เพราะเห็นบางคน มี พสพ กันไม่นับวัน ไม่สวมถุง ไม่กินยาคุม แค่หลั่งนอก ยังไม่ท้องเลย หรือ หลังในและกินยาคุมฉุกเฉินก็ยังไม่ท้องเลยครับ

และอีกนิดครับ วันที่ 13-14-15 ผมช่วยตัวเองต่อเนืองเลยครับทำไห้อวัยวะเพศไม่ค้อยแข็งตัว วันที่16 มี พสพ กันเลยรู้สึกว่าไม่ค้อยแข็งตัวเต็มที่ครับหลังในแต่ใส่ถุงยางนะครับเช็คไม่มีปัญหาอะไรครับ วันที่17-18มี พสพ กัน แต่ไม่เสร็จ ผมก็เลย ช่วยตัวเองไห้เสร็จครับ เช็ค ปกติดี ครับ แต่ผมกลัววันที่ 19 วันเดี่ยวครับ

 ช่วยทีครับและคุณหมอมีอะไรแนะนำผมมั้งไหมครับ ขอบคุณครับ

 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

22 ตุลาคม 2557 10:56:18 #4

หมอขอกล่าวโดยสรุปดังนี้นะครับ หากเดิมเป็นคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ตรงรอบดี วันที่มีเพศสัมพันธ์นั้นอยู่ในช่วงหลัง 7 วันหลังจากมีประจำเดือนวันแรก ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ไม่มีการตกไข่ หากมีเพศสัมพันธ์ช่วงนี้ จะไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ ซึ่งจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ที่กล่าวมานั้น แม้จะเลยมา 1 วัน ก็มีโอกาสแต่ก็น้อยครับ

ส่วนการมีเพศสัมพันธ์แล้วใช้ถุงยางอนามัยแล้วมีปัญหา ขาด รั่ว หรือ ปริแตก การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ซึ่งการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้ยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชู่พันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ

ดังนั้น โดยสรุปแล้ว โอกาสที่จะพลาดแล้วตั้งครรภ์น้อยมากๆครับ แต่ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะตามที่หมอกล่าวไป โดยที่ระหว่างนี้ ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ซ้ำไปอีกนะครับ

Anonymous

22 ตุลาคม 2557 19:40:57 #5

แล้วผมอยากทราบว่า  น้ำลายฆ่าเชือ อสุจิได้ไหมครับ
และอสุจิอยู่ในของผู้ญได้นานกีวันครับ
และยาคุมฉุกเฉินมีผลกีชั่วโมงครับทำไมถึงคุมได้เป็นเดื่อนๆครับ
เท่าที่ดูแล้วยาคุมฉุกเฉิน 2 เม็ตไม่น่าจะคุมได้เป็นเดื่อน เคยอ่านเจอเค้าบอกว่าสามารถคุมได้ 24 ช.ม ต่อ1 เม็ต และถ้าเราทาน 2 เม็ต ก็คุมได้ 48 ช.ม เท่ากับ 2 วัน เลยงง ว่ายาคุม มีผลยังไงครับ ขอบคุณครับ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

25 ตุลาคม 2557 18:14:19 #6

อสุจิสามารถทนอยู่ในสภาวะนอกร่างกายที่อุณหภูมิห้องได้ประมาณ 20 นาทีโดยเฉลี่ยนะครับ และ น้ำลายคงไม่อาจกล่าวไปว่าจะฆ่าได้หรือไม่ แต่ก็อาจอนุมานได้ว่าอสุจิก็คงไม่สามารถทนภาวะเป็นด่างจากน้ำลายได้ครับ และ ก็จะทำให้อสุจิเสียคุณภาพไป ส่วนในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้นจะมีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไปและมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว ดังนั้น จะใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้วและเมื่อจำเป็นเท่านั้น ดังนั้น ก็จะไม่ควรมาคิดว่าจะคุมได้กี่ชั่วโมงต่อการทานหนึ่งครั้งครับ

Anonymous

28 ตุลาคม 2557 15:51:30 #7

ขอบคุณมากๆๆครับ^^