กระดานสุขภาพ

มีเลือดออก ทางช่องคลอด
Ohmm*****e

16 ตุลาคม 2557 10:52:55 #1

คือ หนูมีอาการ เลือดออก แบบกระปริดกระปรอย ออกมาทางช่องคลอดหลังจากเป็นประจำเดือน    ปกติจะเป็นประจำเดือน 3-5 วัน ก็หยุดสนิทแล้ว  แต่ในเดือนนี้ มาเรื่อยๆ พร้อมกับเมือก ที่ค้างคาในช่องคลอด เป็นเวลา เกือบ 10 วันแล้วค่ะ เป็นประจำเดือน วันที่ 4.10.14  แต่ วันที่ 5 ได้ไปฉีด ยาคุมระยะเวลา แบบ 1 เดือน แต่ไม่ได้กินยาฮออร์โมน แต่ กินยา สตรี ครั้งหนึ่งก่อนนอน เพราะท้องอืด ...และมีเพศสัมพันธ์ ครั้งเดียว ในระหว่างที่มีเลือด ออก แบบกระปริดกระปรอย 

ลักษณะเลือด จะมี ทั้งแบบเป็นก้อนๆเนื้อ แบบเล็กๆ และเป็นแบบหนืดๆ แต่ออกมาแค่ติดผ้าอนามัยแบบบาง บางทีก้อ ครึ่งแผ่น บางทีก็ออกมาแบบเต็มแผ่นเลย อะคะ  

ก่อนหน้านี้ มีอาการคันบริเวณแคมใกล้กับปากช่องคลอดด้วยคะ แต่มองเห็ฯไม่ชัด คล้ายตุ่มผืน แดง และคันตลอดเวลา ค่ะ

ไม่ทราบว่า หนูเป็นโรคอะไรคะ

ยังไม่มีเวลาไปหาหมอ เลยขอปรึกษา คุณหมอที่มีความรู้เฉพาะทางช่วยก่อน 

อายุ: 26 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 59 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.90 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

17 ตุลาคม 2557 10:47:45 #2

การฉีดยาคุมจะทำให้เกิดอาการข้างเคียงคือมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้หลังฉีดยา เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าไม่ได้ฉีดยาคุมแล้วเกิดอาการเลือดออกกระปริดกระปรอยน่าจะมีสาเหตุมาจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติ การรักษาส่วนใหญ่จะเป็นการทานยาฮอร์โมนเพื่อให้เลือดหยุด ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง ทั้งนี้ ควรมารับการตรวจภายในด้วยเพราะอาจจะมีติ่งเนื้อผิดปกติที่ปากมดลูกก็ได้ซึ่งทำให้มีอาการเลือดออกผิดปกติได้เช่นกัน ส่วนอาการคันผื่นขึ้นน่าจะเกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งอาจจะเป็นเชื้อราควรรับการรักษาโดยการทายาเฉพาะที่จะทำให้อาการคันดีขึ้นได้ จะต้องพยายามหลีกเลี่ยงความอับชื้นโดยการใช้ผ้าอนามัยแผ่นบางแล้วเปลี่ยนทิ้งบ่อยๆ ด้วยค่ะ