กระดานสุขภาพ

เป็นๆหายๆมา4-5เดือนครับ ช่วยหน่อย
Anonymous

8 มิถุนายน 2557 09:28:06 #1

ผมเป็นแผลที่อวัยวะเพศ เป็นๆหายๆมา4-5เดิือน กินยาฆ่าเชื้อแล้วก็หาย สักพักก็เป็นใหม่ เป็นแผลไม่ใหญ่ครับ ตอนเเรกโดนน้ำจะเจ็บมาก หลังๆไม่เจ็บ ที่ผมเซงคือ กินแล้วหาย พอหายแล้วก็เป็นใหม่ งงมากก

อายุ: 26 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 58 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.66 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

9 มิถุนายน 2557 04:27:49 #2

เรื่องแผลที่อวัยวะเพศ คงต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไรและรักษาตามสาเหตุ ในกรณีที่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น เที่ยวผู้หญิง ไม่ใช้ถุงยางหรือมีคู่นอนหลายคน ก็ต้องระวังแผลโรคติดต่อ ที่พบบ่อยและมีอาการเจ็บเวลาล้างแผลคือเริม ซึ่ง เป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง แต่ถ้าไม่เคยมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็อาจเป็นแผลหรือการแพ้ ระคายเคืองต่อสารที่สัมผัสหรือเป็นเชื้อรา แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ห้ามใช้สบูยาเพราะจะแห้งมากขึ้น ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazole ทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนัง หรือให้ข้อมูลทางเพศและถ่ายรูปแผลชัดๆมาด้วย