หมอขอให้ข้อมูลและความคิดเห็นในฐานะสูตินรีแพทย์ดังนี้นะครับ จากอาการลักษณะดังกล่าวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิร์ตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ ซึ่งการรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในชื่อสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากในวัยช่วงอายุ 20-40 ปี มักจะสัมพันธ์กับความอับชื้นบ่อยๆ เป็นเวลานานๆครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีชื่อสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีขึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ

ส่วนหากมีตกขาวที่มีลักษณะสีเขียว เหลือง กลิ่นเหม็นมาก ก็จะมักจะเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดหรือมีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานได้ ซึ่งหากมีอาการติดเชื้อที่รุนแรง จะมีอาการไข้ หนาวสั่น ตกขาวกลิ่นเหม็นคล้ายหนอง และ ควรจะต้องปวดท้องน้อยร่วมด้วย ซึ่งหากไม่มีอาการต่างๆนี้ หมอคิดว่า อาการไข้อาจไม่สัมพันธ์กับการที่มีตกขาวครับ แต่อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วการรักษาเชื้อราในช่องคลอดนั้น ควรจะดีขึ้นหลังการรักษาด้วยยาประมาณไม่เกิน 1 สัปดาห์อาการจะดีขึ้นแล้ว หากอาการไข้ไม่ดีขึ้น หมอคิดว่าควรมาพบแพทย์อีกครั้งครับ