กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนไม่มาค่ะ
Nana*****y

8 พฤษภาคม 2557 03:25:04 #1

ประจำเดือนไม่มาค่ะ...เคยไปหาหมอ..หมอให้ยาบำรุงเลือดมาทาน..ประจำเดือนก็มา 2 เดือนค่ะ เดือนต่อไปก็ไม่มาเหมือนเดิมค่ะ เป็นมานานแล้วค่ะ เราเป็นคนอ้วนด้วยจะเกี่ยวกันไหมค่ะ..แล้วจะเป็นอะไรไหม.ควรจะทำอย่างไรถึงประจำเดือนจะมาเป็นปกติค่ะ ขอบคุณค่ะ

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 97 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 35.63 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

9 พฤษภาคม 2557 02:34:21 #2

ลักษณะประจำเดือนที่มาไม่สม่ำเสมอนั้น เป็นอาการของภาวะผิดปกติที่เรียกว่า DUB คำว่า DUB หรือ dysfunctional uterine bleeding นั้นหมายถึงการที่มีเลือดออกผิดปกติ ซึ่งส่วนใหญ่คือมาไม่สม่ำเสมอ อาจมีประวัติเลือดประจำเดือนขาดหายไป 2-3 เดือน อาจมากกว่านี้ก็ได้ แล้ว เลือดก็ออกมาปริมาณมาก หรือ กะปริดกะปรอย ครับ ซึ่งจะวินิจฉัยภาวะนี้ได้ จะต้องหาสาเหตุอื่นๆแล้ว ไม่พบครับ จึงจะวินิจฉัยภาวะนี้ได้ ซึ่งภาวะนี้ เกิดจาก ความผิดปกติของการตกไข่ ทำให้ระดับฮอร์โมนผิดปกติไป ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติในช่วงแรก ทำให้ประจำเดือนขาดหายไป ต่อมา เมื่อหนาตัวมากขึ้น จนมีการแตกหรือลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้มีเลือดออกมาปริมาณค่อนข้างมาก หรือ อาจกะปริดกะปรอย มาไม่เป็นรอบ ลักษณะแบบนี้ ก็จะวนเวียนไปมา ครับ

ซึ่งส่วนสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาผิดปกตินั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้ มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง (polycystic ovarian syndrome) ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ ซึ่งจากน้ำหนักตัวที่กล่าวมานั้น ถือว่า อยู่ในเกณท์อ้วนค่อนข้างมากนะครับ เป็นสาเหตุของภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง (polycystic ovarian syndrome ได้อย่างแน่นอน

ดังนั้น หมอขอแนะนำให้มาพบสูตินรีแพทย์นะครับ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของภาวะ DUB นี้ ซึ่งการรักษาภาวะ DUB นั้น อาจต้องใช้ฮอร์โมนช่วยปรับรอบประจำเดือนให้ตรงเสียก่อน ซึ่งการทานฮอร์โมนนั้น นิยมให้ทานยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนั้นเนื่องจาก ทานง่าย และ ปริมาณยาก็พอดี แนะนำผู้ป่วยให้ทานง่าย เข้าใจง่าย อีกทั้งยังสามารถคุมกำเนิดได้อีกด้วยครับ เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้สูตินรีแพทย์ ใช้ยาชนิดนี้ ในการรักษาครับ ซึ่งอาจทาน 3-6 เดือนเป็นอย่างน้อยครับ และการรักษาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ต้องรักษาถึงสาเหตุที่แท้จริง และต้องมีการแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วย เช่น ลดน้ำหนัก อาการออกกำลังกาย การปรับเปลี่ยนเรื่องอาหาร หลีกเลี่ยงยาหรือสารอื่นๆที่ทำให้มีผลต่อการตกไข่ เป็นต้นครับ

Nana*****y

9 พฤษภาคม 2557 05:59:23 #3

ขอบคุณค่ะ