กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนมาไม่ปกติ
Help*****e

26 มีนาคม 2557 11:17:00 #1

ประจำเดือนหนูมาไม่ปกติค่ะ เวลามาแต่ละครั้งก็มาน้อยมาก ล่าสุดนี่มานิดเดียวแบบแค่เลอะกกน. แต่ไม่ต้องใส่ผ้าอนามัยเลย แล้วปจด.มาๆหายๆ หายมากกว่ามา เคยหายไปเกือบปีจนแทบลืมวิธีใช้ผ้าอนามัยเลย เคยไปหาหมอครั้งนึงหมอบอกว่าหนูเครียด แต่หนูไม่ได้เครียดเลยนะคะ คือมีเครียดบ้างแต่แค่แปบๆก็หาย จนตอนนี้จะปีนึงแล้วแต่ประจำเดือนก็ยังมาไม่ปกติ มาแค่เดือนเดียวแล้วมาน้อยมากกกก เลยอยากทราบว่า
1.หนูจะมีลูกได้ไหมคะ? ตอนนี้ยังไม่อยากมีค่ะ แต่กลัวอนาคตจะมีไม่ได้ แฟนก็กังวลค่ะ
2.ทานยาสตรีจะช่วยไหมคะ มีคนบอกมาว่ามันคือยาดองดีๆนี่เอง
3.พอจะวินิจฉัยได้ไหมคะว่าหนูเป็นอะไร ไม่อยากไปตรวจแล้ว โดนจับนู่นจับนี่แต่บอกมาแค่ว่าหนูเรียดแถมค่าตรวจก็แพง เข็ดค่ะㅠ.ㅠ
ช่วยตอบด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 72 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 27.10 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

28 มีนาคม 2557 09:11:32 #2

จากประวัตินั้น ประจำเดือนมีลักษณะที่มาไม่ปกติ ห่างหายไปหลายเดือน และ อาจมาปริมาณไม่มาก แต่จะกะปริดกะปรอย หรือ อาจมาปริมาณมากๆได้นั้น มักมีสาเหตุมาจากออร์โมนผิดปกติจากภาวะไข่ตกไม่สม่ำเสมอครับ (Anovatory dysfuctional uterine bleeding) มักเกิดจาก ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้น แต่จากน้ำหนักและส่วนสูงนั้น หมอคิดว่าน่าจะค่อนข้างเจ้าเนื้อสักนิด ซึ่งลักษณะที่มีไขมันค่อนข้างมากนี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่ตกไข่ได้จากไขมันส่งผลให้มีฮอร์โมนที่ทำให้ยับยังการตกไข่ และ ยังส่งผลต่อให้หน้ามัน มีขนอ่อนๆได้ ซึ่งหากเป็นหลายๆปี อาจเข้าสู่ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบหรือ Polycystic ovary syndrome (PCOS) ได้ครับ และ ภาวะนี้ อาจทำให้มีบุตรยากครับ

ส่วนในเรื่องยาที่กล่าวมานั้น ในความเห็นของหมอแล้วไม่ควรทานยาหรือสารประเภทที่กล่าวมานะครับ ยาที่กล่าวมานั้นเป็นยาที่มีประโยชน์ครับ แต่การควบคุมปริมาณของสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนที่ต้องการมารักษาอาการผิดปกตินั้น ทำได้ยากมาก ไม่สามารถทำให้คงที่ แน่นอนในแต่ละครั้งที่ทาน และยังมีความแตกต่างในด้านส่วนประกอบในแต่ละชนิดยาอีกด้วย ดังนั้น การที่จะนำมาเพื่อการรักษาอาการเลือดประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาใช้เพื่อควบคุมปรับรอบประจำเดือนนั้น ยังอาจนำมาใช้ค่อนข้างยากลำบากครับ อาจทำให้เลือดประจำเดือนมาผิดปกติได้ อาจมาปริมาณมาก หรือ มีผลต่อการตกไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่ ซึ่งมีผลทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้ครับ ดังนั้น หมอคิดว่า ในความเห็นของหมอ ไม่ควรทานยาประเภทนี้นะครับ เพราะอาจทำให้สับสนได้ว่าความผิดปกตินั้น เกิดจากอะไร

ดังนั้น หมอแนะนำให้ ค่อยๆลดน้ำหนักลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ทานจุกจิก เป็นต้นครับ หากประจำเดือนไม่มา หรือ มาไม่เป็นรอบ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อปรึกษาหาสาเหตุ และ อาจต้องได้ยาช่วยในเรื่องการควบคุมรอบประจำเดือนครับ