คุยกับหมอสมศักดิ์ ตอน ทำอย่างไรดีกับยาเหลือใช้

somsaktalk-35


      

      การพบแพทย์ในแต่ละครั้งก็จะได้รับยามาเป็นจำนวนหนึ่ง ยาบางชนิดแพทย์แนะนำให้ทานจนหมด บางชนิดเป็นยาที่ทานเฉพาะช่วงที่มีอาการเท่านั้น และแพทย์มักจะสั่งยาเป็นจำนวนเดือน 30 วัน 60 วัน 90 วัน แต่เวลาที่นัดมักจะเป็นจำนวนสัปดาห์ เช่น 1 เดือนก็ 4 สัปดาห์ 28 วัน 3 เดือนก็เป็น 12 สัปดาห์ 84 วัน จึงมียาที่เหลืออีกจำนวนหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไปหลายครั้งที่ติดตามการรักษาก็จะมียาเหลือเป็นจำนวนมากขึ้น เราควรมีวิธีการจัดการกับยาที่เหลืออยู่นั้นอย่างเหมาะสม ดังนี้

      1. กรณียาเหลือควรนำยาที่เหลือนั้นนำมาใส่ซองยาใหม่ที่ได้มา และศึกษาดูว่าวิธีการทานยาเป็นเหมือนเดิม หรือเป็นวิธีใหม่ เนื่องจากแพทย์อาจปรับวิธีการใช้ยาใหม่เป็นระยะๆ ตามเป้าหมายของการรักษา เช่น ความดันโลหิตควบคุมไม่ได้ ระดับน้ำตาลในเลือดคุมไม่ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ เป็นต้น การนำยาใหม่ไปใส่ในถุงยาเดิมนั้น อาจทำให้เกิดการใช้ยาไม่ตรงตามแพทย์ปรับใหม่ได้ เมื่อนำมาใส่รวมกันแล้ว ก็ให้ทานยาเก่าก่อนเสมอ

      2. ยาที่เหลือนั้นต้องดูวันหมดอายุทุกครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วยาที่ได้รับมาจากโรงพยาบาลมักจะมีอายุอีกนานกว่าจะหมดอายุ

      3. การแกะยาออกจากแผงบรรจุยา แล้วนำมาใส่ไว้ในกล่อง หรือถุงยา เพื่อความสะดวกในการทานยาเป็นเวลานั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องดูด้วยว่ายาที่ใส่มาในซอง แผงนั้น มีคำแนะนำไว้ด้วยหรือเปล่าว่าต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิเท่าไหร่ หลีกเลี่ยงความชื้นอย่างไร ต้องมีเม็ดสารกันชื้นใส่ไว้ในซอง กล่องหรือไม่ หรือใส่ไว้ในขวดแก้ว ซองกันแสงแดดหรือไม่ เพราะถ้าเราเก็บยาไม่ถูกวิธี ยาก็เสื่อมคุณภาพ ส่งผลให้การรักษาก็ไม่ได้ผลตามฤทธิ์ของยา

      4. ยาที่เหลือไม่ควรนำไปให้คนอื่นๆ ใช้ต่อ ถึงแม้จะเป็นโรคเดียวกันก็ตาม ยกเว้นว่ายาที่ทานเป็นยาชนิดเดียวกันเลย แบบนี้ก็สามารถนำยามาใช้ร่วมกันได้ แต่ก็ต้องดูว่าขนาดของยา วิธีการใช้นั้นเป็นอย่างไร ปัญหาที่พบบ่อย คือ การนำยาที่ใช้รักษาตามอาการไปให้คนอื่นๆ ใช้ต่อ โดยอาจเป็นคนละโรคกัน ตัวอย่างเช่น ปวดศีรษะ ยาที่เหลือเป็นยารักษาไมเกรน แต่นำไปให้คนที่ปวดศีรษะจากความเครียด นำยาแอสไพรินรักษาหลอดเลือดสมองตีบไปใช้กับคนที่มีสาเหตุของอาการอ่อนแรงจากโรคกล้ามเนื้ออักเสบ เพราะเห็นว่ามีอาการอ่อนแรงเหมือนกัน

      5. การนำยาที่เหลือไปคืนโรงพยาบาลแล้วทำไมโรงพยาบาลไม่รับคืน เพราะเป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยของการใช้ยา เพราะยานั้นอาจเก็บในที่ที่ไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพของยาได้ หรือมีการปนเปื้อนเกิดขึ้นได้

      6. การนำยาที่เหลือไปขายต่อ แบบนี้ห้ามทำโดยเด็ดขาด ผิดแน่นอน

      เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการใช้ยานั้น เราควรบอกแพทย์ทุกครั้งเมื่อมาพบแพทย์ว่ามียาชนิดไหน เหลือจำนวนเท่าใด เพื่อที่แพทย์จะได้สั่งจำนวนให้เพียงพอและไม่เหลือมาก อย่างไรก็ตามถ้ามียาเหลือมากๆ ต้องมาดูว่าทานยาครบหรือไม่ ยาที่เหลือสำรองไว้จำนวนหนึ่ง เช่น 2-3 สัปดาห์ก็เหมาะสม เพราะอาจไม่สามารถตรวจกับแพทย์ตามนัดได้ หรือมีเหตุสุดดวิสัยจริงๆ ก็ได้ ยาเหลือนิดหน่อยย่อมดีกว่าขาดยานะครับ