เรื่องจริงด้านสุขภาพของคนไทย

drsomsaktalk-2


      

      1. คนไทยมากกว่าร้อยละ 95 ทั่วทั้งประเทศ สามารถเข้าถึงระบบบริการด้านสาธารณสุขได้ฟรี ทั้งสิทธิ์บัตรทอง ข้าราชการ และประกันสังคม และภาวะฉุกเฉินจริงๆ ก็ยังสามารถรักษาได้ทุกโรงพยาบาลในประเทศไทย ผมว่ายอดเยี่ยมที่สุดในโลกแล้วครับ

      2. สิทธิ์การรักษาที่ร่วมจ่ายแบบตรงไปตรงมา คือ สิทธิ์ประกันสังคม แต่ก็เหมือนจะมีข้อจำกัดหลายอย่างที่ทำให้ผู้ใช้สิทธิ์นี้ไม่ค่อยมีความสุขใจมากนัก จริงแล้วน่าจะเป็นกลุ่มที่ควรมีสิทธิ์การรักษาที่ครอบคลุมมากๆๆๆๆ

      3. สิทธิ์บัตรทองเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ ก็ถูกเปรียบเทียบว่าเป็นการตัดเสื้อโหลไม่เหมาะกับการรักษาแต่ละคน ทำให้คนไทยที่ใช้สิทธิ์บัตรทองเสียชีวิตมากกว่าสิทธิ์อื่นๆ แต่ไม่ได้เปรียบเทียบกับในอดีตที่คนไทยไม่มีหลักประกันด้านสุขภาพ ถ้าไตวายระยะสุดท้ายก็ต้องปล่อยให้เสียชีวิต เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าล้างไตหรือฟอกเลือด ปัจจุบันก็ยังพอมีทางรักษาคือล้างไตทางหน้าท้องก่อน ถ้าไม่ดีก็เปลี่ยนไปฟอกเลือดได้ภายหลัง หรือเป็นมะเร็งต้องใช้ยาราคาแพงมาก แต่ก่อนก็ต้องปล่อยให้เสียชีวิต ปัจจุบันก็มีสูตรยาที่ได้ผลในระดับหนึ่ง ผมคิดว่ามีเสื้อโหลใส่ก็ยังดีกว่าไม่มีเสื้อผ้าใส่เลย

      4. คนไทยยอมซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สมุนไพร หรือการรักษาที่คนบอกว่าดี เสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ก็ไม่ว่า แต่พอต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลของรัฐเพียงบางส่วน ก็รู้สึกว่าไม่ได้รับการบริการที่ดี ผิดหลักมนุษยธรรม ผิดหลักการของหลักประกันสุขภาพ

      5. คนส่วนใหญ่รู้ว่าการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ก็ยังไม่เลิก ยอมเสียค่าเหล้า บุหรี่ทุกๆ วันมากกว่าค่าดูแลด้านสุขภาพ

      6. คนไทยมีสาเหตุการเสียชีวิตที่พบบ่อยมากๆ เป็นสิ่งที่สามารถป้องกัน แก้ไขได้ แต่ไม่ยอมป้องกัน เช่น อุบัติเหตุจราจร ทุกๆ วันมีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุมากกว่าโรคมะเร็งปอด มะเร็งตับ

      7. คนไทยส่วนหนึ่งเข้าถึงการมียาใช้รักษาโรคลำบากมาก โรงพยาบาลแห่งหนึ่งถึงกับมีโครงการรับบริจาคยาแต่ก็มีคนไทยส่วนหนึ่ง (จำนวนมาก) ที่มียาเหลือเต็มบ้าน กระทรวงต้องมีโครงการนำยาเก่ามาแลกไข่ แปลกมากๆๆๆ น่าจะแปลกที่สุดในโลก

      8. รัฐบาลมีการสนับสนุนให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค กิจกรรมส่งเสริมด้านสุขภาพ แต่ไม่สนับสนุนให้มีการตรวจสุขภาพ ในสิทธิ์การรักษาต่างๆ มีข้อจำกัดมากมายด้านการตรวจสุขภาพ น่าคิดครับ แล้วจะมารณรงค์ว่าการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ ดีกว่าการรักษาหรือแก้ไข

      9. แนวทางการรักษาต่างๆ ถูกเสนอมาจากราชวิทยาลัย สถาบันการแพทย์ และ/หรือสมาคมวิชาชีพด้านการแพทย์ไปยัง สปสช. กรมบัญชีกลาง ประกันสังคม แต่เวลามีปัญหาแนวทางการรักษาที่ใช้ไม่ได้ในเหตุการณ์จริงๆ หรือไม่มียาให้ใช้ ไม่มีเครื่องมือให้ตรวจเพิ่มเติม กลับต่อว่า สปสช. กรมบัญชีกลาง ประกันสังคมเป็นต้นเหตุของปัญหา เราน่าจะต้องพูดคุยกันนะครับ

      10. แพทย์ไม่เคยเรียนการบริหารด้านการเงินและบริหารโรงพยาบาลมาก่อนเลย แต่จบมาเป็นหมอ ต้องมาบริหารงานโรงพยาบาลและบริหารการเงินด้วย รวมทั้งการจัดซื้อจัดจ้าง ถ้าจะบริหารไม่ดีและยิ่งมีงบประมาณมาจำกัดด้วย ถ้าโรงพยาบาลขาดทุน แล้วเราทำไมไม่ให้ผู้ที่มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงมาทำการบริหารโรงพยาบาล อาจจะช่วยลดปัญหาการขาดทุนได้บ้างนะครับ ดีกว่าไปโทษว่ามีใครทำให้ขาดทุน ผมว่ากระทรวงน่าจะมีทีมงานในการบริหารโรงพยาบาล เพื่อลดภาระของหมอ และแก้ปัญหาต่างๆ ได้ด้วยนะครับ

      ที่ผมมีข้อสังเกตแบบนี้ ไม่ได้ประชดหรือแดกดันใคร หน่วยงานใดนะครับ ผมมีความตั้งใจที่จะเสนอให้เห็นปัญหาของประเทศไทยด้านสาธารณสุข เพื่อที่เราจะได้กลับมาร่วมกันมอง ร่วมกันพิจารณา หาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่มีในปัจจุบัน ดีกว่าการไปกล่าวโทษกันไปมา แล้วไม่มีอะไรที่ดีขึ้นครับ