ไรฝุ่นเล็กๆ ก่อเหตุใหญ่ๆ (ตอนที่ 4 และตอนจบ)

ไรฝุ่นเล็กๆก่อเหตุใหญ่ๆ

นอกจากนี้ยังมีการรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น

  • การรักษาด้วยการก่อภูมิคุ้มกันหรือการรักษาโดยวิทยาอิมมูโน (Immunotherapy) ซึ่งเป็นการฉีดสารที่ทำให้เกิดการแพ้ของคนไข้เข้าไปในร่างกายทีละน้อยๆ และค่อยๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ลดความรุนแรงของอาการแพ้น้อยลงเรื่อยๆ โดยมีการฉีดเป็นประจำทุก 1-2 สัปดาห์ และค่อยๆ เพิ่มปริมาณยาตลอดระยะเวลา 3-6 เดือน

ส่วนการรักษาเพื่อคงอาการ (Maintenance shots) จะต้องฉีดทุก 4 สัปดาห์ เป็นระยะเวลา 3-5 ปี ทั้งนี้ การรักษาด้วยวิธีนี้มักจะใช้เมื่อการรักษาอื่นไม่ค่อยได้ผล

  • การล้างจมูก (Nasal irrigation) ด้วยน้ำเกลือ
    • การหลีกเลี่ยงไรฝุ่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมอาการแพ้ อย่างไรก็ดีเราก็ไม่สามารถกำจัดไรฝุ่นออกจากบ้านได้ทั้งหมด สิ่งที่ควรระลึกไว้เกี่ยวกับไรฝุ่นก็คือ ไรฝุ่นชอบอากาศอุ่น ชื้น ดังนั้นสื่งที่ทำได้ เช่น

      • ใช้ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนที่กันไรฝุ่น
      • ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าคลุม ทุกสัปดาห์ ในน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิอย่างต่ำ 54.4 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าไรฝุ่นและล้างเอาสารที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ออก หากเป็นเครื่องนอนที่ซักไม่ได้ให้แช่แข็งเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อฆ่าไรฝุ่น (แต่ไม่สามารถเอาสารที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ออกได้)
      • ใช้วัสดุผ้าปูที่นอน ปลอกหมอกที่ทำจากสารสังเคราะห์แทนการใช้ขนสัตว์
      • ถ้าเป็นไปได้ให้รื้อพรม ถอดม่านที่เป็นผ้า และเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นเบาะ ในห้องนอนออก
      • กำจัดของรกรุงรังที่ทำให้เกิดฝุ่นออกจากห้องนอน เช่น ของกระจุกกระจิก (Knickknacks) ของประดับโต๊ะ (Tabletop ornaments) หนังสือ นิตยสาร และหนังสือพิมพ์
      • ทำความสะอาดพื้นโดยใช้ไม้ถูพื้นหรือผ้าขี้ริ้วที่เปียกเพื่อเช็ดฝุ่น อย่าใช้ผ้าแห้ง
      • ใช้เครื่องดูดฝุ่น (Vacuum cleaner) ที่มีถุงกรองชนิดที่มีขนาดรูพรุนเล็ก 2 ชั้น (Double-layered microfilter bag) หรือใช้แผ่นกรองอากาศ (HEPA filter)
      • ใส่หน้ากาก (Mask) ขณะดูดฝุ่น เพื่อป้องกันการหายใจเอาสารก่อภูมิแพ้เข้าไป และอยู่ให้ห่างจากบริเวณที่ดูดฝุ่นเป็นเวลา 20 นาที เพื่อให้ฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้สงบตัวลงก่อน
      • ซักตุ๊กตาของเล่นที่ยัดนุ่น ฟองน้ำ (Stuffed toys) ในน้ำร้อนและปั่นให้แห้ง และอย่านำไปไว้ในเตียง
      • ติดตั้งแผ่นกรองอากาศที่เครื่องปรับอากาศชนิดที่มีค่า MERV อยู่ที่ระดับ 11 หรือ 12 และอย่าลืมเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศทุก 3 เดือน

      [MERV = Minimum Efficiency Reporting Value) คือ ดัชนีประสิทธิภาพของระบบกรองอากาศที่ได้รับการยอมรับ ซึ่งมีค่าตั้งแต่ 1-20 โดยระบบปรับอากาศทั่วไปจะมีค่า MERV เพียง 1-4 ซึ่งกรองได้แต่เพียงฝุ่นขนาดใหญ่เท่านั้น ส่วนระบบปรับอากาศที่มีค่า MERV สูงสุด ถึง 17-20 จะใช้ตามห้องสะอาด (Clean room) ซึ่งสามารถกรองได้แม้กระทั่งไวรัสและไอเค็มจากทะเล]

      แหล่งข้อมูล

      1. Dust mite allergy. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/dust-mites/basics/definition/con-20028330 [2014, November 13].
      2. 8 Ways to Get Rid of Dust Mites. http://www.medicinenet.com/script/main/art.asp?articlekey=20276[2014, November 14].
      3. Dust Mite Allergy. http://asthmaandallergies.org/asthma-allergies/dust-mite-allergy/ [2014, November 14].