แมงกะพรุน สวยประหาร (ตอนที่ 1)

แมงกะพรุน สวยประหาร-1

นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนมักจะพบแมงกะพรุนถูกคลื่นซัดเข้ามาชายหาดจำนานมาก ทั้งมีพิษและไม่มีพิษโดยแมงกะพรุนที่พบทั่วไปในทะเลไทยมีหลายชนิดแต่แมงกะพรุนที่เป็นอันตรายและมีพิษรุนแรงคือ แมงกะพรุนกล่อง ซึ่งในประเทศไทยเคยพบผู้เสียชีวิตจากแมงกะพรุนกล่องแล้ว

จากข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา ในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ พ.ศ. 2542-2558 มีรายงานผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากแมงกะพรุนพิษมากกว่า 1,000 ราย พบอาการหนักจนถึงหมดสติ 18 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 8 ราย ทุกรายเกิดจากแมงกะพรุนกล่อง

การเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรคเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุการณ์พบผู้ได้รับบาดเจ็บสงสัยสัมผัสแมงกะพรุนพิษ 3 ราย ในจังหวัดกระบี่ โดยผู้ป่วย 2 ราย บาดเจ็บเล็กน้อยที่มือ ส่วนอีก 1 ราย มีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณขาและแขน แน่นหน้าอกหายใจเหนื่อย ปวดจุกแน่นท้อง แต่ยังรู้สึกตัวดี

จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยทั้ง 3 คน ได้ลงเล่นน้ำทะเลขณะมีฝนตกโปรยๆ หลังเล่นน้ำพบว่ามีบาดแผลลักษณะโดนแมงกะพรุน จึงไปรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยน้ำส้มสายชูจากเจ้าหน้าที่ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที

นายแพทย์เจษฎา กล่าวต่อไปว่า สำหรับแมงกะพรุนกล่อง เป็นแมงกะพรุนชนิดที่มีพิษรุนแรง จะมีลักษณะโปร่งใส รูปร่างเป็นทรงสี่เหลี่ยม มีหนวดยื่นออกมาในแต่ละมุม และหนวดอาจยาวพอกับความสูงของคน แมงกะพรุนกล่องแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ชนิดที่มีหนวดเพียงเส้นเดียวในแต่ละมุม หรือชนิดที่มีหนวดหลายเส้นในแต่ละมุม ซึ่งกลุ่มนี้มีหนวดรวมๆ แล้วประมาณ 12-15 เส้น

ผู้เสียชีวิตในประเทศไทยทุกรายเกิดจากชนิดที่มีหนวดหลายเส้น ซึ่งกะเปาะพิษจะอยู่ที่สายหนวด หนึ่งตัวอาจมีกะเปาะพิษถึงล้านถุง ทำให้แมงกะพรุนกล่องจัดเป็นสัตว์ทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ซึ่งพิษของแมงกะพรุนกล่องมีฤทธิ์ 3 ด้าน คือ

  1. ทำให้เซลล์ผิวหนังตาย
  2. มีอาการปวดรุนแรงและ
  3. หากได้รับพิษในปริมาณมาก แล้วพิษเข้าสู่กระแสเลือดและหัวใจ จะทำให้หัวใจหยุดเต้นและระบบหายใจล้มเหลว อาจเสียชีวิตได้ภายใน 2-10 นาที

นายแพทย์เจษฎา กล่าวถึงการป้องกันแมงกะพรุนว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวังการเล่นน้ำทะเลในขณะฝนตกหรือหลังฝนหยุดใหม่ๆ สำหรับขั้นตอนการปฐมพยาบาลผู้ที่สงสัยถูกแมงกะพรุน ให้ปฏิบัติดังนี้

  1. เรียกให้คนช่วยหรือเรียกรถพยาบาล(โทร 1669) แต่ห้ามทิ้งให้ผู้บาดเจ็บอยุ่ตามลำพัง เพราะอาจหมดสติภายในเวลาไม่กี่นาทีข้างหน้าและต้องการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
  2. ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่งๆ เพื่อลดการยิงพิษจากแมงกะพรุน
  3. ห้ามขัดถูหรือราดน้ำจืดบริเวณที่ถูกแมงกะพรุน เพราะจะทำให้มีการยิงพิษเพิ่มขึ้น
  4. ให้ราดน้ำส้มสายชูบริเวณที่มีร่องรอยจากการสัมผัสแมงกะพรุนให้ทั่วนานอย่างน้อย 30 วินาที เพราะน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์ในการระงับการยิงพิษจากถุงพิษที่ยังไม่ออกฤทธิ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยได้รับพิษเพิ่มขึ้น ไม่ได้ลดอาการปวด และ
  5. ถ้าผู้ป่วยหมดสติและไม่มีชีพจรให้ปั้มหัวใจก่อน โดยไม่ต้องรอราดน้ำส้มสายชู

และหรือหากมีข้อสังสัยสามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค 1422

แหล่งข้อมูล:

  1. กรมควบคุมโรค ห่วงคนเล่นน้ำทะเลช่วงฝนตก เตือนระวังแมงกะพรุนมีพิษ หลังสัปดาห์ที่แล้วพบผู้บาดเจ็บสงสัยพิษแมงกะพรุน 3 ราย. http://www.ryt9.com/s/tpd/2652642 [2017, June 03].