แพ้น้ำตาลในนม (ตอนที่ 1)

แพ้น้ำตาลในนม

ผศ.ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล กล่าวถึง อาการแพ้น้ำตาลในนม หรือที่เรียกว่า Lactose intolerance ว่า เป็นการแพ้น้ำตาลแลคโทสที่มีอยู่ในนมซึ่งเกิดจากร่างกายขาดตัวย่อย หรือ เอนไซม์แลคเทส โดยอาการที่พบคือ ท้องเสียหลังจากดื่มนมหรือรับประทานผลิตภัณฑ์จากนม

การแพ้น้ำตาลในนมนั้นจะแตกต่างจากการแพ้อื่นๆ ของร่างกาย เพราะการแพ้น้ำตาลในนมนั้นไม่ใช่อาการภูมิแพ้ของร่างกาย เนื่องจากหากเป็นการแพ้อาหารของร่างกาย จะแสดงอาการที่หนักกว่า เช่น ผื่นหรือลมพิษ ท้องเสียรุนแรง บวม น้ำตาลไหล ไอ จาม หรือหายใจลำบาก

ผศ.ดร.ฉัตรภา กล่าวว่า การแพ้น้ำตาลในนมจะพบได้บ่อยในคนเอเชียโดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น เอนไซม์แลคเทสในร่างกายก็จะผลิตน้อยลง เมื่อเกิดอาการท้องเสียหลังรับประทานนมหรือผลิตภัณฑ์จากนม จึงทำให้ผู้ที่มีอาการแพ้น้ำตาลในนมส่วนใหญ่จะเลิกบริโภคนมและผลิตภัณฑ์จากนมทั้งหมด เพราะกลัวว่าจะส่งผลเสียต่อร่างกาย

แต่นมเป็นแหล่งที่มาที่ดีของสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย เช่น โปรตีน แคลเซียม วิตามินดี วิตามินเอ และสารอาหารหลายอื่นๆ เมื่อเลิกรับประทานนมยังส่งผลให้ต้องจำกัดประเภทของอาหารที่รับประทานได้ ด้วยเนื่องมาจากอาหารหลากหลายชนิดมีส่วนผสมของนม เช่น นม ไอศกรีม ชีส ขนมปัง เค้ก ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ โยเกิร์ต น้ำสลัด ช็อกโกแลต เครื่องดื่มเย็น ฯลฯ

ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการได้ลงความเห็นด้วยกันว่าไม่มีความจำเป็นที่ผู้ที่แพ้นมจะต้องเลิกรับประทานทุกอย่างที่มีนมผสม เนื่องจากการแพ้น้ำตาลในนมนั้นจัดเป็นการแพ้ที่ไม่ได้อันตราย และสามารถที่จะลดการแพ้ลงได้หากปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานนมและผลิตภัณฑ์จากนม

จากการศึกษายังระบุว่าส่วนใหญ่ของผู้แพ้น้ำตาลในนมจะสามารถรับประทาน โยเกิร์ต ชีส และไอศกรีมได้โดยไม่มีอาการแพ้หรือมีน้อยมาก

นอกจากนี้ ผศ.ดร.ฉัตรภา ยังได้กล่าวถึง วิธีการที่ช่วยลดการแพ้น้ำตาลในนมไว้ดังนี้

  1. ในแต่ละครั้งของการดื่มนม ควรเริ่มจากปริมาณน้อยก่อน ไม่ใช่ทีละเต็มแก้ว เริ่มจากแบ่งเป็นทีละ 1/3 - ¼ แก้ว
  2. รับประทานนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมร่วมกับมื้ออาหาร การดื่มนมพร้อมกับมื้ออาหารจะช่วยลดระยะเวลาในการย่อยซึ่งช่วยให้การย่อยน้ำตาลในนมดีขึ้น เช่น ดื่มนม ½ แก้วพร้อมกับอาหารมื้อกลางวันแทนที่จะดื่ม 1 แก้วในตอนเช้า
  3. หากการดื่มนมยังคงทำให้เกิดอาการท้องเสีย ให้เปลี่ยนมารับประทานโยเกิร์ตแทน จุลินทรีย์ที่มีอยู่ในโยเกิร์ต Streptococcus thermophilus และ Lactobacillus bulgaricus จะทำหน้าที่ช่วยลดการทำงานของน้ำตาลแลคโทสลง และช่วยย่อยน้ำตาลแลคโทสในบางส่วน ซึ่งจะช่วยให้รับประทานได้ดีกว่านมปกติ นอกจากนี้ จุลินทรีย์ในโยเกิร์ตยังไปทำลายจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียที่ไม่ดีในลำไส้ที่ ก่อให้เกิดอาการท้องเสียด้วย
  4. รับประทานเอนไซม์แลคเทส (ในรูปของยาเม็ด) แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนซื้อมารับประทาน โดยรับประทานก่อนที่จะดื่มนม 30 นาที เอนไซม์นี้จะทำหน้าที่ในการย่อยน้ำตาลในนมซึ่งจะช่วยไม่ให้เกิดอาการท้องเสียหลังรับประทานนม

แหล่งข้อมูล

  1. ถ้าแพ้น้ำตาลในนมควรจะเลิกกินนมเลยไหม? http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9580000034127 [2015, April 17].