เฮชไอวี VS เอดส์ (ตอนที่ 6 และตอนจบ)

  • โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
  • 23 ธันวาคม 2558
  • Tweet
เฮชไอวี VS เอดส์

นอกจากการกินยาแล้ว สิ่งที่ควรทำ คือ การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ กินอาหารที่มีประโยชน์ และหยุดการสูบบุหรี่

ทั้งนี้ แพทย์จะสามารถควบคุมว่า การรักษาได้ผลตามที่ต้องการหรือไม่ ด้วยการวัดจำนวนเชื้อที่อยู่ในเลือด หรือที่เรียกว่า Viral load

[Viral load รายงานผลเป็นจำนวนเชื้อเอชไอวีต่อเลือดหนึ่งมิลลิลิตร (Copies/ml) โดยทั่วไปจะตรวจควบคู่กับการตรวจนับจำนวน CD4 ในกรณีผู้ป่วยที่ยังไม่ได้เริ่มการรักษาด้วยยาต้านไวรัส อาจจะมีปริมาณไวรัสในเลือดจำนวนมากถึงหลายล้านตัวต่อเลือดหนึ่งมิลลิลิตร ถ้าผลการรักษาดี ปริมาณไวรัสจะลดลงเหลือน้อยที่สุดและกดไวรัสให้ได้นานที่สุด ซึ่งจะช่วยให้ CD4 เพิ่มมากขึ้น]

การป้องกันการติดเชื้อเฮชไอวีที่ดีที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความเสี่ยง เพราะเราไม่รู้ว่าใครกันบ้างที่ติดเชื้อ ซึ่งช่วยได้โดย

  • ใช้ถุงยางอนามัยที่เป็นยาง (Latex condoms) เมื่อมีเพศสัมพันธุ์
  • อย่าใช้ถุงยางที่ทำจากผลิตภัณฑ์ของสัตว์
  • อย่าใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
  • หลีกเลี่ยงการดื่มของมึนเมาซึ่งทำให้ขาดสติในการป้องกันตัว

คนติดเชื้อที่สามารถดูแลตัวเองได้ดี ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน และป้องกันการที่เชื้อจะพัฒนาไปเป็นโรคเอดส์ได้

กรณีหญิงมีครรภ์ติดเชื้อนั้น ทารกมีโอกาสติดเชื้อได้ร้อยละ 25 แต่หากได้รับการรักษาที่ดี ความเสี่ยงจะลดเหลือไม่ถึงร้อยละ 1

สาระน่ารู้เกี่ยวกับการระบาดของเชื้อเฮชไอวีทั่วโลก

  • องค์การอนามัยโลกได้มีการประเมินว่า ในปี พ.ศ.2557 ทั่วโลกมีคนประมาณ 36.9 ล้านคนที่ติดเชื้อ โดยในจำนวนนี้เป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 2.6 ล้านคน
  • ในปี พ.ศ.2557 ทั่วโลกมีคนที่ติดเชื้อใหม่ประมาณ 2 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 220,000 คน โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกา และมีการติดเชื้อจากแม่ระหว่างตั้งครรภ์ คลอดบุตร หรือให้นมบุตร
  • องค์การเอดส์แห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอดส์ (UNAIDS) ระบุว่าในจำนวนคน 36.9 ล้านคนที่ติดเชื้อนั้น มีถึง 17.1 ล้านคน ที่ไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อหากไม่ได้ทำการทดสอบ (HIV test) และมีประมาณ 22 ล้านคนที่ไม่ได้ทำการรักษา (รวมถึงเด็กจำนวน 1.8 ล้านคน)
  • คนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในประเทศที่มีรายได้ระดับต่ำถึงระดับปานกลาง โดยร้อยละ 70 ของผู้ติดเชื้ออาศัยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา ทวีปแอฟริกา (Sub-Saharan Africa)

แหล่งข้อมูล

  1. HIV and AIDS. http://www.nhs.uk/conditions/HIV/Pages/Introduction.aspx [2015, October 22].
  2. What Is HIV/AIDS? https://www.aids.gov/hiv-aids-basics/hiv-aids-101/what-is-hiv-aids/ [2015, October 22].
  3. HIV & AIDS Overview. http://www.webmd.com/hiv-aids/ [2015, October 22].