อัมพาต 360 องศา: ตอน การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ช่วยป้องกันโรคอัมพาตได้หรือไม่

อัมพาต  360 องศา

ปัจจุบันการดูแลตนเองมีแน้วโน้มที่คนไทยส่วนใหญ่ปฏิบัติกันมากขึ้นเรื่อย มีการตรวจสุขภาพประจำปี การทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากขึ้น การนิยมออกกำลังกายในฟิตเนสต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งการบริการตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลเอกชน ที่เราจะเห็นว่ามีการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองในโปรแกรมการตรวจสุขภาพสมอง คำถามที่น่าสนใจมากๆในกรณีนี้ คือ ได้ประโยชน์หรือไม่ในการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง เพื่อป้องกันการเกิดโรคอัมพาต

การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองมีข้อบ่งชี้ในการตรวจ คือ การตรวจวินิจฉัยโรคที่สงสัยว่าจะมีความผิดปกติในสมอง เช่น เลือดออกในสมอง อุบัติเหตุที่สมอง ฝีในสมอง เนื้องอกสมอง โพรงน้ำสมองโต เลือดออกในชั้นใต้เยื่อหุ้มสมอง และอื่นๆ แต่ไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ในการส่งตรวจเพื่อป้องกันโรคอัมพาต เพราะการเกิดโรคอัมพาตนั้น ถ้าจะเป็นก็เป็นขึ้นมาทันทีทันใด ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ว่าการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ก่อนที่จะมีอาการอัมพาต จะสามารถตรวจพบความผิดปกติก่อนได้ ดังนั้นการตรวจก่อนที่จะเกิดอาการก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ

แล้วทำไมจึงมีการตรวจดังกล่าวในโรงพยาบาลเอกชน แต่ในโรงพยาบาลของรัฐกลับไม่มี ด้วยเหตุผลทางการตลาดง่ายๆ ครับ คือ เมื่อประชาชนมีความตระหนักในการดูแลตนเองมากขึ้น รณรงค์การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันมากกว่าการซ่อมสุขภาพ เมื่อเป็นแบบนี้ทางโรงพยาบาลเอกชนจึงได้คิดโปรแกรมการตรวจสุขภาพ เพื่อป้องกันการการเกิดโรคอัมพาต กรณีที่ประชาชนหรือญาติผู้ป่วยโรคอัมพาตไปเยี่ยมผู้ป่วย เมื่ออยู่ในสถาณการณ์แบบนี้เมื่อเห็นมีการประชาสัมพันธ์การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อป้องกันการเกิดโรคอัมพาต จึงได้รับความสนใจอย่างมาก ประชาชนจึงนิยมการตรวจดังกล่าว โดยมิได้ศึกษาให้ดีว่าได้ประโยชน์ตามที่มีการให้ข้อมูลนั้นจริงหรือไม่

การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองในกรณีนี้มีประโยชน์บ้างหรือไม่ จริงแล้วการตรวจในกรณีที่เราปกติดีก็พอจะมีประโยชน์บ้าง เช่น การตรวจพบความผิดปกติโดยที่ไม่คาดคิด หรือตรวจพบโดยบังเอิญ เพราะบางกรณีผู้ป่วยไม่มีอาการอะไรเลย แต่พอไปตรวจก็พบความผิดปกติเกิดขึ้นได้ แต่ในกรณีแบบนี้ก็พบได้น้อยมากๆ ในทางการแพทย์ถือว่าไม่คุ้มค่า

ถ้ามีประวัติครอบครัว คนในครอบครัวมีการเจ็บป่วยด้วยโรคอัมพาต การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองได้ประโยชน์หรือไม่ การตรวจในกรณีนี้ก็ไม่มีประโยชน์เช่นเดียวกันครับ เพราะถึงแม้จะมีประวัติครอบครัว รุ่นลูกรุ่นหลานก็มีโอกาสเกิดโรคอัมพาตสูงกว่าคนที่ไม่มีประวัติครอบครัวก็จริง แต่การตรวจก่อนจะมีอาการก็ไม่สามารถบอกได้ว่าใครจะมีโอกาสเกิดโรคอัมพาตได้บ้าง

โดยสรุปการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง เพื่อการป้องกันการเกิดโรคอัมพาตไม่มีข้อมูลทางการแพทย์เลยว่าได้ประโยชน์ การดูแลตนเองที่ดี การออกกำลังกาย การปรับพฤติกรรมลดความเสี่ยงต่างๆ เป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่าการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง