หูดับแต่ตับไม่ไหม้ (ตอนที่ 2 และตอนจบ)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 3 มิถุนายน 2560
- Tweet
สำหรับอาการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในคนนั้น โดยทั่วไปได้แก่ อาการเป็นไข้ ปวดศีรษะ อาเจียน และอาจมีอาการเลือดออกทางผิวหนัง นอกจากนี้อาจทำให้เป็น
- โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis)
- มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis)
- โรคปอดอักเสบ (Pneumonia)
- โรคข้ออักเสบ (Arthritis)
- เยื่อบุหัวใจอักเสบ (Endocarditis)
- กลุ่มอาการสเตรปโตคอกคัสท็อกสิกช็อก(Sstreptococcal toxic shock-like syndrome = STSS)
- หูหนวก (Deafness)
- เส้นประสาทการทรงตัวในหูทำงานผิดปกติ (Vestibular dysfunction)
- การตรวจเลือด (Blood samples)
- การตรวจน้ำในโพรงสมองและไขสันหลัง (Cerebrospinal fluid = CSF)
- การตรวจน้ำไขข้อ (Joint fluid)
- ใส่ถุงมือเมื่อต้องสัมผัสกับหมูเป็นๆ และซากหมู กรณีผู้ที่มีแผลที่ผิวหนังต้องปิดแผลให้มิดชิด
- ล้างมือ ล้างเท้า ล้างตัว ให้สะอาดหลังการสัมผัส
- หลีกเลี่ยงการกินเนื้อหมูสุกๆ ดิบๆ
- เลือกซื้อเนื้อหมูจากตลาดหรือโรงฆ่าสัตว์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำเนื้อยุบ
- ควรทำให้สุกด้วยอุณหภูมิตั้งแต่ 70 องศาเซลเซียส นานอย่างน้อย 10 นาที
- Streptococcus suis. http://ecdc.europa.eu/en/healthtopics/streptococcus_suis/Pages/index.aspx [2017, June 02].
- Streptococcus suis Infection. http://www.chp.gov.hk/en/content/9/24/3648.html [2017, June 02].
โดยผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อมาก ได้แก่ ผู้เลี้ยงหมู คนที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ทำหน้าที่ขนส่งเนื้อหมู พ่อค้าหมู ผู้ทำอาหาร และผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ (Immunocompromised host) เช่น ผู้ที่ตัดม้ามออก ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคพิษสุรา (Alcoholism)
สำหรับการวินิจฉัยโรคสามารถทำได้ด้วย
ส่วนการรักษาสามารถทำได้ด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ เช่น ยา Penicillins ยา Cephalosporins ยา Ceftriazone เป็นต้น
เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ป้องกันการติดเชื้อนี้ ดังนั้นการป้องกันที่ทำได้ คือ
แหล่งข้อมูล: