หลงตัวเอง (ตอนที่ 2)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 29 สิงหาคม 2560
- Tweet
เกณฑ์วินิจฉัยถึงความผิดปกติทางจิต (ต่อ)
- เชื่อว่าตัวเองเลอเลิศ มีแต่คนพิเศษที่เท่าเทียมกันเท่านั้นที่เข้าใจ
- ต้องการการยกย่องตลอดเวลา
- ถือสิทธิ์ มองว่าตนเองควรได้รับสิทธิพิเศษ (Sense of entitlement)
- เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นในสิ่งที่ตนต้องการ
- ไม่สามารถหรือไม่เคยนึกถึงความจำเป็นและความรู้สึกของผู้อื่น
- อิจฉาผู้อื่นหรือเชื่อว่าผู้อื่นอิจฉาตัวเอง
- วางตัวหยิ่งยโส
- ตั้งเป้าหมายที่ไม่เป็นความจริง
คนที่เป็นโรคหลงตัวเองจะไม่คิดว่าตัวเองผิด อย่างไรก็ดี ควรไปพบแพทย์หากมีอาการซึมเศร้าหดหู่จากการถูกวิจารณ์หรือการได้รับการปฏิเสธิ เพราะการได้รับการรักษาที่ถูกต้องจะช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้น
ปัจจุบันยังไม่เป็นที่ทราบชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุของโรคหลงตัวเอง แต่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับ
- ความสัมพันธ์ที่ไม่พอดีระหว่างพ่อแม่และลูก เช่น อาจจะเลี้ยงแบบโอ้มากเกินไป หรือ ว่ากล่าวติเตียนมากเกินไป
- เด็กที่ถูกทอดทิ้งหรือถูกทำร้ายมักเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง (Self-centered) พยายามดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตัวเองเพราะคิดว่าไม่มีใครช่วยเหลือ
- พันธุกรรม (Genetics) หรือ จิตชีววิทยา (sychobiology) – ความสัมพันธ์ระหว่างสมอง พฤติกรรม และความคิด
โรคหลงตัวเองมักเกิดในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และมักจะเริ่มเป็นตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น
หากไม่ได้ทำการรักษา โรคนี้อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา ได้แก่
- ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์
- ปัญหาที่ทำงานหรือที่โรงเรียน
- หดหู่ซึมเศร้า
- ติดยาหรือสารเสพติด
- มีความคิดหรือพฤติกรรมที่จะจะฆ่าตัวตาย
แหล่งข้อมูล:
- Narcissistic personality disorder.http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/definition/con-20025568 [2017, August 28].
- Narcissistic Personality Disorder. http://www.webmd.com/mental-health/narcissistic-personality-disorder#1 [2017, August 28].