หนูตัวเล็กแต่ก่อเหตุใหญ่ (ตอนที่ 8)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 22 ธันวาคม 2559
- Tweet
ส่วนอีกร้อยละ 20 จะมีอาการรุนแรง เช่น
- อาการตกเลือด (Hemorrhaging) ที่เหงือก ตา หรือจมูก
- หายใจอึดอัด
- อาเจียนบ่อย
- หน้าบวม
- เจ็บหน้าอก หลัง ช่องท้อง
- ช็อค
- สูญเสียการได้ยิน
- สั่น (Tremor)
- ภาวะสมองอักเสบจากเชื้อไวรัส (Encephalitis)
- เสียชีวิตภายใน 2 สัปดาห์ เพราะอวัยวะหลายส่วนล้มเหลว
อาการแทรกซ้อนสำคัญที่พบมาก คือ อาการหูหนวก
สำหรับการรักษาจะใช้ยาต้านไวรัส (Ribavirin) การให้สารอาหารที่สมดุล การให้ออกซิเจน และการควบคุมความดันโลหิต
เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคไข้ลัสสา ทางป้องกันที่ทำได้คือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับหนู รักษาความสะอาดอย่าให้มีหนูในบ้าน เก็บอาหารในที่มิดชิด ทิ้งขยะให้ห่างจากบ้าน หากต้องพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อ ก็ต้องมีการป้องกันตัวเองด้วยการสวมเสื้อกาวน์ หน้ากาก ถุงมือ และแว่นตา
โรคไข้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Lymphocytic Chorio-meningitis = LCM) เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส Lymphocytic choriomeningitis virus (LCMV) โดยมีอัตราการเสียชีวิตของโรคนี้อยู่ที่ร้อยละ 1
การติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้หลังจากที่มีการสัมผัสกับปัสสาวะ อุจจาระ น้ำลาย หรือรังของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือโดนกัด โดยอาการมักเกิดขึ้น 8-13 วันหลังการติดเชื้อ โดยแบ่งเป็น
ระยะแรก นานประมาณ 1 สัปดาห์ มีอาการ
- เป็นไข้
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ปวดศีรษะ
- คลื่นไส้ และอาเจียน
นอกจากนี้อาจมีอาการเจ็บคอ ไอ ปวดข้อ เจ็บหน้าอก เจ็บอัณฑะ และปวดต่อมน้ำลายหน้าหู (Parotid)
บรรณานุกรม
1. Lassa Fever. http://www.cdc.gov/vhf/lassa/ [2016, December 21].
2. Lymphocytic Chorio-meningitis. http://www.cdc.gov/vhf/lcm/index.html [2016, December 21].