สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน: ตามัวจากยา

สาระน่ารู้จากหมอตา

คุณป้าแดง อายุ 56 ปี ปกติเป็นคนแข็งแรงดี มาระยะ 6 เดือนมานี้รู้สึกเบื่ออาหาร มีไข้ต่ำๆ เวลากลางคืน น้ำหนักลดไปถึง 3 ก.ก. ในระยะเวลา 5 เดือน จึงไปรับการตรวจร่างกายจึงพบว่าคุณป้าเป็นวัณโรคปอด แพทย์จึงแนะนำให้ใช้ยารับประทานรักษาโดยแจ้งว่าคงต้องใช้เวลานานในการรับประทานยา คุณป้ารับยาจากโรงพยาบาลและทานยาตามแพทย์สั่ง 1 เดือน ต่อมาไปติดตามผลการรักษาเป็นที่พอใจ นอกจากมีอาการดังกล่าวที่เกิดจากวัณโรค คุณป้าบ่นว่าตามัวด้วยและได้รับการตรวจตั้งแต่ต้นว่าเป็นต้อกระจกระยะเริ่มแรก ต้องรอให้ต้อหนาขึ้นค่อยมารับการผ่าตัด

หลังจากรักษาวัณโรคได้ 3 เดือน คุณป้าแดงรู้สึกตามัวลง แต่คาดว่าน่าจะเป็นจากต้อกระจก จึงไม่ได้ใส่ใจอะไรและด้วยความกลัวการผ่าตัดจึงไม่ได้บอกลูกหรือหมอ จนระยะหลัง ลูกๆ สังเกตว่าคุณป้าตาจะมัวลงมากเดินชน กับข้าวที่วางตรงหน้าก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร จึงพาไปตรวจตาผลการตรวจพบว่า ต้อกระจกไม่ได้ขยายไปจากเดิมที่ตรวจ เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แต่สายตากลับลดลงมากจนเหลือแค่นับนิ้วได้ที่ระยะ 2 ฟุตเท่านั้น เกิดจากมีภาวะประสาทตาอักเสบจากการใช้ยา Ethanbutal นั่นเอง

ผลข้างเคียงจากยา Ethambutal มักเกิดหลังใช้ยาประมาณ 3 - 6 เดือน บางรายงานว่า อาจเป็นเองที่เรียก idiosyncrasy ส่วนใหญ่พบว่าขึ้นกับขนาดและระยะเวลาที่ใช้ยา อีกทั้งการคำนวณขนาดยาอาจคลาดเคลื่อนด้วย น้ำหนักตัวผู้ป่วยที่ลดลงมาก ทำให้จำนวนยาต่อน้ำหนักสูงกว่าปกติ อีกทั้งการคำนวณขนาดของยายังต้องดูภาวะไตด้วย ถ้าไตทำงานผิดปกติจะเร่งพิษของยาเร็วขึ้น อาการตามัวมักจะเป็นทั้ง 2 ข้าง พร้อมๆ กัน โดยไม่ปวด โดยตาจะมัวลงอย่างช้าๆ หรือบางคนอาจเป็นเพียงลานสายตาผิดปกติ ส่วนมากจะมาพบหมอว่าอ่านหนังสือไม่ชัด โดยตัวหนังสือจางลง การมองเห็นสีผิดไป ผู้ที่รับประทานยารักษาวัณโรคอยู่จึงควรหมั่นทดสอบการมองเห็นในตาทั้ง 2 ข้าง หากสงสัย ควรรีบไปพบหมอหรือหยุดยา หากหยุดยาเปลี่ยนยารักษาวัณโรคตัวอื่นได้เร็ว สายตามักจะกลับคืน การตรวจตาส่วนมากจะพบลักษณะของ retrobulbar optic neuritis การตรวจลานสายตาพบ central scotoma

นับตั้งแต่เริ่มมีการใช้ Ethambutal มารักษาวัณโรค มีรายงานพบผลข้างเคียง คือ ตามัวลงตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 เป็นต้นมา British Thoracic Society ตระหนักถึงผลข้างเคียง มิได้บ่งไว้ว่า ภาวะ retrobulbar optic neuritis แม้จะพบไม่บ่อยนัก แต่ควรระวังไว้โดย ควรวัดสายตาเป็นบรรทัดฐานก่อนให้ยา ควรให้ยาในผู้ป่วยที่สามารถทดสอบวัดสายตาได้ จำเป็นต้องแจ้งผู้ป่วยล่วงหน้าถึงอาการทางตา โดยให้หยุดยาทันทีที่มีอาการ หมอบางท่านอาจแนะนำตรวจการมองเห็นสีไว้ มีผู้ป่วยบางรายแจ้งหมอว่าเริ่มมีการเห็นสีผิดปกติก่อนที่สายตาจะลดลง ผู้ป่วยส่วนใหญ่เกิดจากขนาดและจำนวนยาที่ใช้มากและนานเกินไป โดยพบภาวะนี้ได้ถึง 18% ในขนาดยามากกว่า 35 มก / นน.ตัวกิโลกรัม พบ 5-6 % ในขนาดยา 25 มก / นน.ตัวกิโลกรัม แต่พบน้อยกว่า 1% ในขนาดยา 15 มก / นน.ตัวกิโลกรัม และส่วนมากเกิดอาการเมื่อใช้ยา 1.5 เดือนขึ้นไป (3 - 5 เดือน) มีบ้างที่เกิดหลังใช้ยา 12 เดือน การศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่ายาตัวนี้มีพิษต่อ retinal ganglion cell ทำให้ประสาทตาเสื่อมลงตามมา

การเตือนผู้ป่วยถึงสายตาที่อาจลดลงจากผลข้างเคียงของยาเป็นสิ่งจำเป็น ในกรณีใช้ยา Ethambutal