สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน: ติดสินบนหมอ

สาระน่ารู้จากหมอตา

จำได้ว่าครั้งหนึ่งมีชายวัย 50 ปี เป็นพนักงานขับรถประจำทางของ ขสมก มารับการตรวจตาและขอคำปรึกษาเนื่องจาก ระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ ขับรถเมล์ประสบอุบัติเหตุบ่อยๆ ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งให้ไปตรวจวัดสายตาดูว่ามีปัญหาการมองเห็นหรือไม่ เนื่องจากเป็นพนักงานขับรถมานาน ขับดีตลอด ไม่เคยมีประวัติอุบัติเหตุมาก่อน เมื่อตรวจตาจึงพบว่ามีสายตาอ่านตัวเลขจากแผ่นพับวัดสายตาได้ปกติ แต่เมื่อวัดความดันตาพบว่า ตาขวา 36 มมปรอท ตาซ้าย 32 มม ปรอท (ค่าปกติไม่เกิน 20 มม ปรอท) ตรวจละเอียดจึงพบว่าประสาทตาสูญเสียไปถึง 90 % ลานสายตาเหลือเพียงตรงกลางประมาณ 10 องศาเท่านั้น มีลักษณะที่เรียกกันว่า tubular field เห็นเหมือนมองเป็นท่อ เห็นเฉพาะภาพที่อยู่ตรงกลางหน้าเท่านั้น ด้านข้างๆ มองไม่เห็นเลย ถ้าหากจะเปรียบเทียบเสมือนมีเด็กยืนเรียงหน้ากระดานอยู่ตรงหน้าห่างไป 10 ฟุต อยู่ 5 คน ชายผู้นี้จะเห็น 3 คนตรงกลาง ส่วนซ้ายขวาอีกข้างละคนมองไม่เห็น ต้องใช้วิธีกลอกตาไปมาถึงจะเห็น จึงไม่สงสัยเลยว่า พนักงานขับรถท่านนี้คงมองเห็นอะไรแคบๆ มองไม่เห็นรถด้านข้าง อาศัยความสามารถที่ขับรถมาหลายปีสามารถกลอกตาไปมา เพื่อมองรถด้านข้างได้บ้าง แต่ก็ไม่ดีนัก จึงเกิดอุบัติเหตุได้บ่อย

สาเหตุที่มีสายตาเป็นท่อหรือเห็นเฉพาะตรงกลางในชายผู้นี้ เกิดจากต้อหินเรื้อรังที่ไม่ทราบสาเหตุ ตาจะค่อยๆ มัวลงอย่างช้าๆ โดยมัวจากภาพด้านข้าง กล่าวคือหากแค่วัดสายตาโดยมองจากแผ่นภาพ หรือมองไปข้างหน้าจะพบว่าปกติดี ต้องรับการตรวจโดยการวัดความดันตา ตรวจดูขนาดขั้วประสาทตา (glaucomatous cupping) และลานสายตา จึงจะได้การวินิจฉัยที่ถูกต้อง และเมื่อได้ตรวจอย่างละเอียดแล้ว พบว่าลานสายตาเหลือแคบมากไม่น่าจะขับรถอีกต่อไป โดยเฉพาะรถสาธารณะ เพราะมีผู้โดยสารจำนวนมาก อีกทั้งโรคต้อหิน เป็นโรคที่ทำให้สายตาเลวลงๆ โดยที่เสียแล้วจะไม่กลับคืน ซึ่งหมายความว่า จะให้การรักษาดีอย่างไร ลานสายตาที่แคบก็ยังแคบอยู่อย่างนั้น การรักษาเพียงเพื่อไม่ให้สายตาเลวลงหรือลานสายตาแคบเท่านั้น

เมื่ออธิบายผู้ป่วยเข้าใจถึงโรคที่เป็นและแนะนำให้หยอดยาไปก่อน อีก 1 เดือนต่อมา ผู้ป่วยมาพบอีกครั้งพร้อมทั้งขอร้องให้ออกใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าสายตาปกติเพื่อจะได้นำไปให้หัวหน้าเพื่อจะได้ขับรถต่อไป จึงได้พยายามอธิบายว่า เขาไม่ควรจะขับรถอีกต่อไป เพราะลานสายตาผิดปกติไปมาก ผู้ป่วยอ้างว่ามีความจำเป็นต้องขับรถเพราะไม่มีอาชีพอื่น โดยติดสินบนว่าจะให้หมอขึ้นรถเมล์สายที่เขาขับฟรีตลอด ได้อธิบายผู้ป่วยว่า ไม่อาจออกใบรับรองให้ได้ เพราะระดับสายตาขนาดนั้นอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงได้ ผู้ป่วยดูจะโกรธและไม่พอใจกลับไป อีก 6 เดือนต่อมา ผู้ป่วยกลับมาใหม่คราวนี้มาขอโทษที่ไม่เชื่อฟังไปขับรถอีก โดยผลัดหัวหน้าเรื่องใบรับรองแพทย์จนเกิดอุบัติเหตุเกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อหายดีจากอุบัติเหตุ จึงระลึกถึงหมอตา แล้วกลับมารักษาตาใหม่ โดยเปลี่ยนอาชีพเป็นนายตรวจแทน

การขับรถที่ดี ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นและตนเอง นอกจากต้องมีทักษะของการขับขี่แล้ว จำเป็นต้องมีทั้งสายตาและลานสายตาที่ปกติด้วย