สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน: มาดูแลตาดำกันเถอะ

สาระน่ารู้จากหมอตา

การเจ็บปวดตามาก อาจเกิดจากมีความผิดปกติของตาดำ (กระจกตา) เช่น ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ที่ทำความสะอาดไม่ดีพอ มือสกปรก หรือใส่นานเกินไป ตลอดจนถอดคอนแทคเลนส์ด้วยมือที่มีเล็บยาว ทำให้เกิดบาดแผลที่กระจกตา

บางท่านทำงานออฟฟิศ พลิกกระดาษเร็ว ๆ ขอบกระดาษที่เรียบ มีความคม อาจพลาดไปบาดตาดำ ทำให้กระจกตาเป็นแผลถลอก

ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการเจียนเหล็ก อาจมีผลเหล็กกระเด็นเข้าไปฝังในกระจกตา

ที่ไม่อาจลืม ที่มีอาการเจ็บปวดมากอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ กลุ่มที่ทำงานเกี่ยวกับรังสี UV ทำการอ๊อกเหล็กด้วยแสงที่มี UV ร่วมอยู่ด้วย โดยลืมใส่หน้ากากกันแสง UV หรือนักศึกษาอาชีวะเพิ่งจะเริ่มฝึกหักวิชาเชื่อมเหล็ก ตลอดจนในต่างประเทศ ผู้ที่เล่นสกีบนหิมะทั้งวันโดยไม่ใส่แว่นกันรังสี UV จะมีรังสี UV สะท้อนจากผิวหิมะเข้าตาเราอย่างมาก เกิดแผลเล็กๆ ที่กระจกตาขึ้น ที่ฝรั่งเขาเรียกกันว่า snow blindness นั่นเอง

ทั้งหมดล้วนเป็นความเจ็บปวด ทนทุกข์ทรมาน น้ำตาไหล ด้วยเหตุเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจเป็นเหตุการณ์ที่ทำกันอยู่ทุกวัน ไม่มีอาการอะไร เช่น ใช้ไม้จิ้มฟัน, การปัดขนตาปลอม, ใส่คอมแทคฯ, ทำงานในออฟฟิศ, ต้องพลิกดูเอกสารเป็นประจำ, ทำงานอ๊อกเหล็กเป็นอาชีพ ฯลฯ ทำแบบเดิมๆมาตลอด มาโชคร้ายในวันเกิดเหตุไปถูกกระจกตาเพียงเล็กน้อย เป็นแผลก็อาจเป็นแผลขนาดไม่ถึงมิลลิเมตรไปจนถึง 5-6 มิลลิเมตรเท่านั้นเอง ทำไมถึงก่อความเจ็บปวดทรมานขนาดนั้น

อวัยวะที่เป็นต้นเหตุ เรียกกันว่า กระจกตา หรือชาวบ้านเรียกกันว่าตาดำ ที่จริงคือกระจากตาใส มีรูปทรงกระทะคว่ำอยู่ ไม่มีสี มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร เป็นรูปทรงกระทะครอบอยู่ มีความหนาโดยเฉลี่ยประมาณน้อยกว่า 1 มิลลิเมตร เป็นอวัยวะที่ปิดลูกตาส่วนหน้าไว้ ปิดส่วนสำคัญของลูกตาที่อยู่ภายใน เช่น แก้วตา, ม่านตา, จอประสาทตา/จอตาไว้ไม่ให้เกิดอันตราย อีกทั้งเป็นส่วนที่ให้แสงสว่างเข้าไปเพื่อให้เกิดการเห็นขึ้น กล่าวคือ ถ้าไม่มีส่วนนี้หรือส่วนนี้เกิดความผิดปกติ ไม่สามารถปกป้องลูกตาภายในหรือไม่ให้แสงผ่านเข้าไป การมองเห็นของคนนั้นจะลดลงถึงขั้นตาบอดเลยก็ได้ ด้วยเหตุที่กระจกตามีความสำคัญ ธรรมชาติสร้างให้มันมีหนังตาคอยเปิดปิดโดยอัตโนมัติ หากมีสิ่งแปลกปลอมมาใกล้ตา หนังตาก็จะกระพริบปิดตาทันที อุบัติเหตุที่ยกตัวอย่างข้างต้น ล้วนแต่เกิดจากการกระพริบตาไม่ทัน เอาอะไรไปกระทบกระทั่งตาดำจนเป็นแผล ทั้งสิ้นอาจเรียกได้ว่าทำตัวเอง หรือทำร้ายตาดำของตัวเอง และด้วยเหตุที่กระจกตามีความสำคัญ ธรรมชาติจึงสร้างให้มีเส้นประสาทมาเลี้ยงมาก จึงมีความไวต่อความรู้สึกมาก เพียงเศษผงเล็กๆ แผลเล็กๆ ก็ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดมาก ตาแดงสู้แสงไม่ได้ทั้งสิ้น

นอกจากนั้น หากแผลเล็กๆ อุบัติเหตุนิดหน่อยเหล่านั้นนอกจากก่อให้เกิดความเจ็บปวด หากได้รับการดูแลไม่ทันไม่ถูกต้อง มีการติดเชื้อซ้ำเติมเข้าไปอีก ก็อาจนำไปสู่การสูญเสียตายตาอย่างถาวรไปเลย

ถึงเวลาที่เราควรหยุดทำร้ายตาดำ แต่ควรมาเอาใจใส่ตาเราบ้าง ดังนี้

  1. คุณสาว ๆ ที่ต้องมีกิจกรรมบริเวณตาเพื่อความสวยงาม อาจเป็นการติดขนตาปลอม การใช้ mascara ใช้ eye shadow การเขียนขอบตา เขียนคิ้ว ฯลฯ จะต้องทำอย่างระมัดระวัง ใช้วัสดุเฉพาะของมัน ไม่ใช่เอาอะไรมาทดแทนกันตามความสะดวก ของใครของมันไม่แบ่งกันใช้ รักษาความสะอาด ไม่ทำกิจกรรมดังกล่าวร่วมกับอย่างอื่นในเวลาเดียวกัน เช่น เขียนขอบตาร่วมกับทำผม อาจทำให้ศีรษะขยับเกิดอุบัติเหตุที่กระจกตาได้ อีกทั้งห้ามทำในรถขณะที่รถเคลื่อนที่ อาจมีการชะลอหรือหยุดรถกะทันหันเกิดขึ้นได้
  2. โดยเฉพาะการใช้คอนแทคเลนส์ ซึ่งต้องนำมาวางอยู่บนกระจกตาเลย ต้องรักษาความสะอาดประกอบการทำคอนแทคโดยผู้รู้และทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด การใช้คอนแทคแบบผิด ๆ ทำแบบผิด ๆ นั้นมานานไม่เห็นเป็นไร สักวันหนึ่งจะต้องมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น คอนแทคประเภทที่เรียกกันว่า big eye เป็นแฟชั่นที่ไม่น่าจะสนับสนุนโดยเฉพาะในเด็กที่เลียนแบบกัน มีผู้ป่วยหลายรายที่ต้องสูญเสียสายตาจากการใช้คอนแทคฯแบบผิด ๆ มาแล้ว
  3. การใช้เครื่องป้องกัน เช่น ใช้แว่นกันแดดตัดแสง UV ที่ทำร้ายกระจกตากันฝุ่นละอองที่จะเข้าตา ตลอดจนการใช้แว่นนิรภัยหรือใช้หน้ากากที่กันทั้งแสงหรือวัตถุที่มาทางตรงและที่มาทางข้างๆ ในผู้ที่ทำงานเสี่ยงกับผงหรือเศษวัสดุอะไรอาจกระเด็นเข้าตา ให้ใส่เป็นประจำจนติดเป็นนิสัย อุบัติเหตุมักเกิดกับคนที่ละเลย หลายคนบอกว่าปกติใช้หน้ากากตลอด เพิ่งจะวันนี้เองที่ไม่ได้ใช้แล้วเกิดอุบัติเหตุจนได้
  4. หากมีโรคประจำตัวบางอย่างที่ต้องใช้ยาประจำหรือมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาหมอไว้ก่อน เข้าทำนองกันไว้ดีกว่าแก้