สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน: สารกันเสียในยาหยอดตา (Eyedrop Preservative)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต
- 19 มิถุนายน 2557
- Tweet
สารกันเสียชนิดนี้มีในยาหยอดตาที่บรรจุอยู่ในขวดที่ใช้หลายๆ ครั้ง (multidose) เป็นสารที่ใส่ไว้เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่อาจบังเอิญพลัดเข้าไปในขวดจากการเปิดปิดหยอดตาหลายๆครั้ง กล่าวคือ เมื่อเปิดขวดครั้งแรกยายังสะอาดดีมาก แต่การเปิดใช้แต่ละ ครั้งเสี่ยงต่อการปนเปื้อน จำเป็นต้องมีสารนี้ เพื่อฆ่าเชื้อที่เข้าไป เพื่อให้น้ำยาที่เหลืออยู่ ยังมีคุณภาพดีปราศจากเชื้อโรค
อาจแบ่งสาร preservative ที่ใช้ในยาหยอดตาออกเป็น
- Detergent agent
- Oxidizing agent
- Ionic buffer agent
Detergent:
ทำหน้าที่รบกวนสาร lipid ใน cell membrane ทำให้สิ่งต่างๆภายใน cell ของเชื้อโรคหลุดออกมาจากการไม่คงตัวของผนังเซลล์ (membrane instability) หลักการคือ เป็นสารทำลายผนังเซลล์ของเชื้อโรค ทำให้น้ำยายังคงสภาพปลอดเชื้อ เหมาะแก่การใช้ในครั้งต่อไป ได้แก่
- BAK (Benzalkonium) เป็นสาร quaternary ammonium ที่ละลายในน้ำได้ดี ทำลาย cell to cell junction เริ่มมีใช้ตั้งแต่ ค.ศ. 1910 โดยระยะแรกใช้ฆ่าเชื้อโรค (germicide) ทั่วๆไป และในราว ค.ศ. 1940 นำมาใช้ในยาหยอดตาด้วยความเข้มข้น 0.004 – 0.02%
- Centrimonium มักใช้ในน้ำตาเทียม มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราได้ด้วย ใช้มากใน น้ำยาปรับเส้นผม เปลี่ยนสีผม
- Chlorobutanol เป็น phenylethanol มีใช้กันมากว่า 125 ปีแล้ว ทำให้เซลล์ของแบคทีเรียสลายจากการถูกทำลายที่ cell membrane ใช้ฆ่าเชื้อโรคในเครื่องสำอางค์ ขี้ผึ้ง ยาหยอดตา น้ำยาบ้วนปาก ความเข้มข้นที่ใช้ 0.5% ฆ่าเชื้อราได้ด้วย
- Polyquad (poly quaternium) ใช้ในคอนแทคเลนส์แทน BAK เพราะ BAK จะเข้มข้นขึ้นในตัวคอนแทคฯ และน้ำยาที่ใช้ในคอนแทคฯ และออกมาในน้ำตา ทำลายผิวตาได้ สารตัวนี้เป็น detergent เช่นกัน แต่ตัวแบคทีเรียมักจะมาติดสารตัวนี้ ทำให้ทำลายแบคทีเรียได้ดี
- Polyhexamethylene biguanide (PHMB) ใช้ในน้ำยาคอนแทคเลนส์ น้ำยาล้างสระ ฆ่าเชื้อบริเวณผิวหนัง ฆ่าเชื้อทั้งแบคทีเรีย และ เชื้อบิด acanthomoeba ได้
- EDTA (Edetate disodium) มันเป็น chelating agent ไปรวมกับ metal จึงนำมาใช้ขจัด calcium ใน band keratopathy ความที่เป็น chelating agent จึงทำหน้าที่เป็น preservative ไปด้วย ดังเช่น ในยาหยอดตา Acular หรือ Betagan
- Thimerosal (Merthiolate) มักใช้ในน้ำยาคอนแทคเลนส์ โดยอาศัยปรอท ในน้ำยานี้ไปรวมกับ sulfohydryl ใน protein ทำลายแบคทีเรียและเชื้อรา มักใช้ใน vaccine ที่ป้องกันโรค มีฤทธิ์ 40 ถึง 50 เท่าของ phenol ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Stap aureus
Oxidizing agent:
ผลิตขึ้นเพื่อลดผลเสียจากน้ำยาในกลุ่ม Detergent โดยสารนี้จะผ่าน cell membrane ไปเปลี่ยน DNA , protein และส่วนประกอบไขมันของ bacteria เข้าไปทำลายภายใน cell สารในกลุ่มนี้ ได้แก่
- Stabilized Oxychlorocomplex (SOC) เริ่มใช้ราวๆ กลางปี 1990 สาร chlorine dioxide , chlorite , chlorate เมื่อถูกแสงจะสลายเป็นน้ำ O2 Sodium chlorine free radical ซึ่งจะไปขัดขวาง การสังเคราะห์โปรตีน (protein synthesis) ของเชื้อโรคทำให้มันตาย
- Sodium perborate (Genaqua) เป็น oxidizing preservative ที่มีใช้ในปี ค.ศ. 1950 เมื่อถูกน้ำจะสลายเป็น hydrogen peroxide ซึ่งฆ่า bacteria น้ำและออกซิเจน ยังพบว่าทำลายเชื้อราชนิด Aspergillus niger ได้ด้วย
Ionic buffer:
เป็นตัว preservative ใหม่สุด เป็น combination ของสาร เช่น boric acid , Zinc , Sorbitol และ propylene glycol มีฤทธิ์ antibacteria และ antifungus เช่น ในยาต้อหินบางตัว เช่น Travatan Z
สรุป:
สาร preservative ทำให้น้ำยาหยอดตาปราศจากเชื้อ ปลอดภัยในการใช้ แต่ก็มีโทษทำลายเซลล์บุผิวของเยื่อบุตาและของกระจกตาได้ในคนที่ใช้ยาหยอดตาไปนานๆ หรือ วันละหลายๆครั้ง